วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ททท.สำนักงานลพบุรี ขอเชิญร่วมงาน เที่ยววิถีชุมชนคนสาปยา

ททท.สำนักงานลพบุรี ขอเชิญร่วมงาน เที่ยววิถีชุมชนคนสาปยา ณ ตลาดโรงพักเก่าสรรพยา จ.ชัยนาท (ตลาดกรีนดี) ในวันที่ 2 -3 กรกฎาคม 2565  เวลา 15.00 น. - 20.00 น.
#อาหารพื้นถิ่นห้ามพลาด 
- บัวลอยเนื้อตาล
- ขนมตาล
#การแสดงลานวัฒนธรรม
- การแสดงของนักเรียน โรงเรียนในจังหวัดชัยนาท
- การแสดงละครชาตรี ตอนแก้วหน้าม้า โดยคณะชัชชัย เฉลิมศิลป์
- การแสดงรำวง 3 ส
#กิจกรรมภายในงาน
- กิจกรรม Workshop งานหัตถศิลป์ การทำมาลัยคริสตัล/การทำของที่ระลึกจากผ้า และงานถักแก้วเยติ
- กิจกรรมหัตถกรรมจากใบเตย ใบมะพร้าวและผักตบชวา
- กิจกรรมลดโลกร้อนด้วยมือเรา
- กิจกรรมผลิตภาชนะจากธรรมชาติ
กิจกรรมอัดแน่นแบบนี้ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วพบกันนะคะ
                                               
#วิถีชุมชนคนสาปยา #ตลาดโรงพักเก่าสรรพยา #ตลาดกรีนดี #สรรพยา #ชัยนาท #ชัยนาทเมืองน่ารัก #TATLopburi #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง #TrendyC2ภาคกลาง #เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม #ตะลอน​ไป​ทั่ว 

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2565

“อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน” -​ “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน : ISAN in LOVE”

ททท. ชวนมาเลาะ “อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน”
กับ“หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน : ISAN in LOVE”
พร้อมเปิดประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน&กระตุ้นเที่ยวอีสานหลังสถานการณ์COVID
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) 
โดย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน จัด กิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน เพื่อมุ่งให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่เที่ยว ภาคอีสาน มีความสวยงามและเขียวขจีมากที่สุด สามมารถสัมผัสสายฝนและไอหมอก ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อต่อยอด แคมเปญ “อีสานเขียวเที่ยวหน้าฝน” ผนวกกับเที่ยวจังหวัดในภาคอีสานเปิดประเทศสู่ประเทศเพื่อนบ้านหลังสถานการณ์COVIDนี้
นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “หน้าฝนปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม พ.ศ.2565 นับว่าเป็นมิติหมายที่ดีในภาคอีสานหลังสถานการณ์COVID ได้เปิดด่านเปิดประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้สามารถสร้างมูลค่า&จุดขายเพิ่ม ให้กับการท่องเที่ยวภาคอีสานเชื่อมโยงสู่ประเทศลาว-จีน-กัมพูชา-เวียดนามได้ และโอกาสนี้ ททท.ภาคอีสานยังนำเสนอมุมมองใหม่เที่ยวอีสาน 3 ธรรม อันได้แก่ วัฒนธรรม-ธรรมชาติ-ธรรมะ สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภาคอีสานในฤดูฝน & อีสาน พร้อมเสริฟ์เมนูประสบการณ์ท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ๆให้นักท่องเที่ยวมาค้นหาประสบการณ์ความสุขในหน้าฝนนับเป็นฤดูท่องเที่ยวอีสานที่ดีที่สุด กับมุมมองความอุดมสมบูรณ์และความเขียวขจีกับความสวยงามของภูมิทัศน์ในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในอีกมิติหนึ่ง นอกจากนี้ในช่วงหน้าฝนอากาศกำลังเย็นสบายไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เมื่อยามฝนพรำสู่ดินแดนอีสานที่ราบสูงจะได้เห็นทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา แต่หากฝนตกยามเย็นเมื่อใด ความชื้นจะก่อตัวให้เห็นทะเลหมอกหน้าฝนในยามเช้า แม้อีสานไม่มีทะเลน้ำเค็ม แต่ก็มีทะเลหมอกขาวเสริมแต่งด้วยสายรุ้งกินน้ำอากาศเย็นสบายให้ได้สัมผัสก่อนใคร 
ยกตัวอย่างเช่น ทะเลหมอก20ภู(เขา)จ.เลย ทะเลหมอกภูห้วยอีสัน จ. หนองคาย หรือ ทะเลหมอกหินสามวาฬ จ.บึงกาฬ หรือ ทะเลหมอกสามประเทศผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ รวมถึงความสวยงามของน้ำตกในช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกเจ็ดสี น้ำตกถ้ำพระ จ.บึงกาฬ น้ำตกห้วยหลวง น้ำตกแสงจันทร์หรือน้ำตกลงรู จ.อุบลราชธานี และน้ำตกตาดโดน จ.ชัยภูมิ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ เริ่มบานยาวนานเป็นเวลา 3-4 เดือน อีกด้วย นับได้ว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำที่มาเที่ยวอีสานแล้วต้องห้ามพลาด นอกจากช่วงฤดูฝนจะเป็นช่วงที่สวยงามที่สุดแล้ว ยังเป็นช่วงที่มีความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบเมนูอาหารท้องถิ่น ชวนติดตามและ ท่องเที่ยวไป-ทำงานไป(Workation Thailand) 
ชิมช้อปปิ้งไป-ท่องเที่ยวอีสานผนวกกับเที่ยวอีสาน 3 ธรรม (วัฒนธรรม ธรรมชาติ และธรรมะ) ทั้งนี้ การเดินทางไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวฤดูฝนหรือหน้าฝนมุมมองใหม่ตามใจคุณใน 20 จังหวัดภาคอีสานดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ และร่ำรวยด้วยวัฒนธรรมมิตรภาพ อารยธรรม ชุมชนท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น สวนทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ชุมชนบ้านบุ่งสิบสี่ อ.เกษตรสมบูรณ์ สวนส้มโอของชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีให้รับประทานตลอดทั้งปี ชุมชนแซตอม ออร์แกนิคฟาร์ม : เรียนรู้แหล่งข้าวอินทรีย์ ซึ่งสามารถเข้ามาเรียนรู้เรื่องสายพันธุ์ข้าวและเลือกซื้อกลับบ้านได้ นอกจากนี้ยังมีชุมชน ท่องเท่ียวอื่น ๆ อีกมากมายรอต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน…แล้วจะทำให้คุณรู้สึก “หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน : ISAN in LOVE” แน่นอน
#เที่ยวภาคอีสาน : สะดวก สบาย ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
“การท่องเที่ยวภาคอีสานไม่มีอุปสรรคต่อการเดินทางท่องเที่ยวในหน้าฝน เนื่องจากถนนที่เป็นเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสานจัดอยู่ในมาตรฐานที่ดีมากๆ และ สายฝน จะเป็นเสมือนน้ำมนต์ทำให้ดินแดนแห่งนี้เย็นสบาย ภูมิทัศน์ แหล่งท่องเที่ยว เขียวขจีสดชื่นแจ่มใสไปทั่วทั้งแผ่นดิน...เหมาะแก่การท่องเที่ยวในภาคอีสานยิ่งนัก ททท. ขอชวนทุกท่านออกไปเที่ยวค้นหาความสุขในหน้าฝน กับ แคมเปญ “อีสานเขียว...เที่ยวหน้าฝน” ครับ ผอ. สมชาย กล่าวทิ้งท้าย 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672 หรือ เพจ.เที่ยวอีสาน.com หรือ @go2isan

                                                   
ตะลอนไปทั่ว
www.facebook.com​/TaronPaiTour​

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2565

การรถไฟฯ ทำพิธีเชื่อมต่อสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง สะพานรถไฟแบบขึงแห่งแรกของประเทศไทย แลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดราชบุรี

การรถไฟฯ ทำพิธีเชื่อมต่อสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง สะพานรถไฟแบบขึงแห่งแรกของประเทศไทย แลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดราชบุรี ในโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ 
เมื่อ 24 มิถุนายน 2565 ณ สถานที่ก่อสร้างสะพานฝั่งค่ายภาณุรังษี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟแห่งประเทศไทย และนายอุดม เพชรคุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในพิธีเชื่อมต่อสะพานรถไฟช่วงสุดท้ายข้ามแม่น้ำแม่กลอง สะพานรถไฟแบบขึงแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางสายใต้ ช่วงนครปฐม–หัวหิน โดยมีพลตรีวิกร เลิศวัชรา รองเจ้ากรมการทหารช่าง และนายดนุช ยนตรรักษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ.เอส. แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด พร้อมด้วยหน่วยงานจังหวัดราชบุรีเข้าร่วมพิธี 
นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน การรถไฟฯ เปิดเผยว่า การสร้างสะพานรถไฟแบบขึงข้ามแม่น้ำแม่กลอง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน สัญญาที่ 1 ช่วงนครปฐม – หนองปลาไหล โดยได้มีการสร้างสะพานรถไฟคู่ขนานกับสะพานรถไฟเดิมหรือสะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟทางคู่สายใต้ พร้อมกับมีการออกแบบด้วยเทคนิคทางวิศวกรรมพิเศษให้โครงสร้างสะพานรถไฟใช้คานขึง ที่มีตอม่ออยู่บนฝั่งแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง แทนรูปแบบเดิมที่มีตอม่อกลางแม่น้ำ 
เนื่องจากก่อนที่จะมีการก่อสร้างสะพานรถไฟดังกล่าว การรถไฟฯ ได้ทำการสำรวจพื้นที่แล้วพบวัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขนาด 1,000 ปอนด์ จำนวน 7 ลูก จมอยู่ในแม่น้ำแม่กลองบริเวณใต้สะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ ตรงกับแนวเขตการก่อสร้างสะพานรถไฟ หากจะก่อสร้างสะพานในรูปแบบเดิม จำเป็นต้องมีการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตราย ดังนั้น จึงได้ให้ผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการฯ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างสะพานรถไฟใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงจากวัตถุระเบิด จึงเป็นที่มาของรูปแบบการสร้างสะพานรถไฟแบบขึง (Extradosed Bridge) หรือ เรียกสั้นๆ ว่า “สะพานขึง” ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอพระราชทานชื่อสะพาน 
สำหรับสะพานขึงนี้มีความยาวทั้งสิ้น 340 เมตร แบ่งเป็น 3 ช่วงสะพาน โดยช่วงสะพานที่ข้ามแม่น้ำแม่กลองเป็นช่วงที่มีความยาวมากที่สุดคือ 160 เมตร และมีความสูง 16 เมตร การออกแบบโครงสร้างสะพานเป็นแบบผสมคานคอนกรีตสมดุล (Balance Centilever) ซึ่งเป็นรูปแบบสะพานที่มีการใช้สายเคเบิลร้อยเข้ากับเสาหลักโดยตรง ด้วยเทคนิคทางวิศวกรรมเพื่อขึงช่วยรับน้ำหนัก (Tension cable) ทำให้ลดจำนวนตอม่อที่รองรับน้ำหนักลงได้ ถือได้ว่าเป็นสะพานรถไฟที่ใช้คานขึงแห่งแรกที่ก่อสร้างขึ้นในประเทศไทย และหลังจากการเชื่อมต่อสะพานช่วงสุดท้ายบรรจบสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองแล้ว เจ้าหน้าที่จะดำเนินงานก่อสร้างด้านโยธาเป็นลำดับถัดไป 
นายจเร กล่าวต่อว่า เมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ สะพานรถไฟแบบคานขึงข้ามแม่น้ำแม่กลองจะกลายเป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดราชบุรี เนื่องจากมีรูปลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากสะพานรถไฟอื่นๆ ทั่วไป อีกทั้งยังมีการสร้างคู่ขนานกับสะพานรถไฟจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มายาวนาน ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่โปรดให้มีกิจการรถไฟสายใต้ และได้ก่อสร้างทางรถไฟเชื่อมจากสถานีรถไฟบางกอกน้อยไปถึงสถานีรถไฟเพชรบุรี จึงโปรดให้มีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองสำหรับรถไฟ พร้อมพระราชทานนาม "สะพานจุฬาลงกรณ์" ขนานกับสะพาน
ธนะรัชต์ที่เป็นสะพานสำหรับรถยนต์ช่วงใจกลางเมืองราชบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2444 
ท้ายนี้ การรถไฟฯ มุ่งหวังว่า การเปิดให้บริการสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง ควบคู่กับการเปิดเดินรถไฟทางคู่เส้นทางสายใต้นั้น นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกการเดินทางขนส่งคมนาคมแก่ผู้โดยสาร และสนับสนุนให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ให้หันมาเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟเพิ่มแล้ว ยังเป็นการทำให้ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็น
การส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่พี่น้องประชาชนในชุมชนพื้นที่ใกล้เคียงทางรถไฟ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อันเป็นการช่วยกระจายรายได้ และสร้างความเข้มแข็งต่อเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน
                                                 

Facebook ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
www.facebook.com​/TaronPaiTour​
#การรถไฟแห่งประเทศไทย​
#ตะลอนไปทั่ว

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565

เทศกาลกระท้อนหวานของดีเมืองลพบุรี

ททท.สำนักงานลพบุรี ร่วมพิธีเปิดงาน “เทศกาลกระท้อนหวานของดีเมืองลพบุรี” กลมแป้น เปลือกบาง รสหวาน เนื้อปุย | หวานสะดุ้งกระท้อนตะลุงลพบุรี!!
ค่ำวันนี้ (22 มิถุนายน 2565) นางจิรารัตน์ มีงาม ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี พร้อมคณะฯ ร่วมพิธีเปิดงาน “เทศกาลกระท้อนหวานของดีเมืองลพบุรี” ครั้งที่ 29 ประจำปี 2565 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฯ
สำหรับงานดังกล่าว กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2565 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
ภายในงานทุกท่านจะมีโอกาสได้เลือกซื้อกระท้อนสดๆ และกระท้อนแปรรูป สินค้าคุณภาพดี ราคาถูก ส่งตรงจากสวน หลากหลายพันธุ์ ทั้ง ปุยฝ้าย ทับทิม อีล่า นิ่มนวล ฯลฯ พร้อมสนุกสนานไปกับกิจกรรมรื่นเริงต่างๆภายในงาน อาทิ การแสดงจากศิลปิน, การแสดงดนตรีลูกทุ่ง, การแสดงศิลปวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
☎️ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานลพบุรี โทร. 036 – 770096 – 7 หรือ Facebook Fanpage : Tat Lopburi 
                                                    
#ลพบุรีเมืองน่าเที่ยว #TATLopburi #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง #TrendyC2ภาคกลาง #เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม #ตะลอนไปทั่ว 

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2565

สวนลำไย​ป้า​บัว​ทอง​


เปิดแล้วค่าา “สวนลำไยป้าบัวทอง” จังหวัดลพบุรี

สวนลำไยป้าบัวทอง

ททท.สำนักงานลพบุรี พาชม ชิม “สวนลำไยป้าบัวทอง” มาตรฐาน GAP เชิญชวนนักท่องเที่ยวเพิ่มพลังกาย เพิ่มพลังชุมชน เลือกซื้อ เลือกชิม "ลำไยอีดอ" นอกฤดูปลอดสารพิษ หวานๆ สดๆ ราคาหน้าสวน สนับสนุนผลผลิตของเกษตรกรชาวไทย ตั้งแต่วันนี้ ถึงปลายเดือนมิถุนายน 2565

📍สวนลำไยป้าบัวทอง หมู่ 10 ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี (บริเวณใกล้กับวัดเขาวงพระจันทร์) คุณป้าบัวทอง โทร. 085-2437637 พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/Ea7i5qTTe1Q4rLsW6

☎️ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ททท.สำนักงานลพบุรี โทร. 036-770096-7 หรือ Facebook Fanpage : Tat Lopburi

#ลพบุรีเมืองน่าเที่ยว #TATLopburi #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง #ตะลอน​ไป​ทั่ว #TrendyC2ภาคกลาง #เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม

                                                     

"สัปดาห์วันมัคคุเทศก์ไทย ประจำปี 2565"

ขอเชิญเที่ยวงาน "สัปดาห์วันมัคคุเทศก์ไทย ประจำปี 2565" ระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน 2565 ณ ศูนย์การค้า The Market ชั้น M ราชดำริ 
พบกับการออกบูทท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 

พิเศษมีบูทของ BarterSmart สำหรับสมาชิกสังคมที่ไม่ใช้เงินสด...พิเศษสมัครสมาชิกฟรี!....พร้อมรับโค้ดสมาชิกและรับแต้มเทียบเท่าบาท คนละ 500 แต้ม เพื่อนำไปแลกซื้อสินค้าในโซนของบูท BarterSmart ได้ทันที...เป็นธุรกิจที่เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้กับสมาชิก
และลุ้นรับของรางวัลมากมาทั้งบัตรกำนัล (voucher) โรงแรม, เรือ Dinner Cruise, และสินค้าสุขภาพความงาม ฯ อาทิ จาก...
DrWellnessX 
เข้าร่วมสนับสนุน แจก 

1 WOFFIA WX (ไข่น้ำสด กรีนคาร์เวียแห่งสายนํ้า) 
Super Food High Fiber and Protien) จำนวน 2 ถุง ทุกวัน 

2 Hop Cola WX by DrWellnessX จํานวน 
5 ขวดทุกวัน รวม 50 ขวด
                                                  
#ตะลอนไปทั่ว #market #bangkokmarket

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2565

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย ส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ ด้วยกิจกรรมนำเที่ยวทั่วทุกภูมิภาค ด้วยโครงการ “เที่ยวไทย ๕ ภาค กับ สธทท.”

วันที่ 17 มิถุนายน 2565 
สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) เผยว่า สมาคมฯ ได้ดำเนินโครงการ “เที่ยวไทย ๕ ภาคกับ สธทท. ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคมนี้ วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่เป็นสมาชิกของ สธทท. ร่วมกันเสนอขายเส้นทางนำเที่ยว ในรูปแบบแพ็คเกจทัวร์ โดยจัดทำรายการนำเที่ยว เสนอขายในทุกภูมิภาค ทั่วประเทศไทย และมีกิจกรรม ร่วมกันในพื้นที่ แต่ละภูมิภาค อาทิ กิจกรรมพบปะผู้ประกอบการในพื้นที่ กับ ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก สธทท. (Travel Mart) และกิจกรรมนำเสนอสินค้าท่องเที่ยว ๕ ภูมิภาค เพื่อให้เกิดการขายเส้นทางท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ตลอดจนต้องการสนับสนุนและส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ ทั้ง ๕ ภูมิภาค ตามแนวทางของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท. ) ทั้งการท่องเที่ยววันธรรมดา ท่องเที่ยวนอกฤดูกาล ท่องเที่ยวเมืองรอง ท่องเที่ยวงานประเพณี และกิจกรรมในพื้นที่ที่ ททท. ร่วมจัดและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่ม Corporate ตามแนวทางการดำเนินงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
กิจกรรมที่น่าสนใจ
1. การนำเสนอกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำที่ใด อาทิเช่น 
สวนผลไม้ ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
เที่ยวงาน “นุ่งซิ่นกินทุเรียน” จังหวัดอุตรดิตถ์
เที่ยวเขาจมป่า จังหวัดตรัง
จัดท่องเที่ยวในรูปแบบคาราวานรถยนต์ รถบิ๊กไบค์
2. จัดงาน TTPA Travel Mart ในพื้นที่ภาคตะวันออก
2.1 ผู้ประกอบการท่องเที่ยวแต่ละภาค ได้มาพบปะกัน พร้อมขายรายการท่องเที่ยว
นำนักท่องเที่ยวแต่ละภาคมาพบปะกันในงาน
2.2 นำชุมชนท่องเที่ยวที่มีศักยภาพของแต่ละภาค มาออกบูธ ภายในงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว ได้รับรู้ข่าวสาร และเป็นแนวทางในการท่องเที่ยว
2.3 ภายในงาน จัดแสดง วัฒนธรรมการแต่งกาย ศิลปะการแสดง และอาหารถิ่นของแต่ละภูมิภาค
2.4 มีการซื้อ – ขาย แลกเปลี่ยนสินค้าทางการท่องเที่ยว
แบบ B2B ผู้ประกอบการ และ ผู้ประกอบการ
แบบ B2C ผู้ประกอบการ และ นักท่องเที่ยว
2.5 การจัดประชุมสัมมนา เพื่อพัฒนาการจัดการธุรกิจท่องเที่ยว “การจัดการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน”
เส้นทางท่องเที่ยวในโครงการ
มีครบทุกภาค คือ ภาคเหนือ , ภาคกลาง , ภาคใต้ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคตะวันออก ทาง สธทท. จัดกิจกรรม TTPA Travel Mart ตามที่กล่าวข้างต้น
ซึ่ง สธทท. ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชน ช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยว ร่วมเดินทางด้วย
โครงการเที่ยวไทย ๕ ภาค มีส่วนในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างสังคมให้เข้มแข็ง
สธทท. ตระหนักถึงการมีส่วนร่วม และร่วมรับสิทธิประโยชน์ร่วมกัน คำนึงถึงเพื่อนสมาชิกในพื้นที่เส้นทางท่องเที่ยว และร่วมพัฒนางานบริการสู่มาตรฐานสากล ทำให้เพื่อนสมาชิกในแต่ละพื้นที่ได้รับการพัฒนา และนำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ และก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น ได้คำแนะนำสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยจากโควิค 19
-สธทท. ได้กำหนดเบื้องต้น สำหรับผู้ร่วมเดินทาง ต้องได้รับการฉีดวัคซีน อย่างน้อย 2 เข็ม
-สธทท. ได้จัดชุด Hygiene Travel Kit ประกอบด้วย แก้วน้ำ , สเปรย์แอลกอฮอล์ ทิชชูแอลกอฮอล์ ระหว่างการเดินทางบนรถ จะไม่บริการเครื่องดื่มและอาหาร เพื่อลดการเปิดหน้ากากอนามัย ในส่วนสถานที่ท่องเที่ยว ให้ผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการนำนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เสี่ยงและแออัด เพื่อลดความเสี่ยง ในร้านอาหารจะมีการจัดช้อนกลางสำหรับทุกท่านเพื่อลดการสัมผัสร่วม
ประโยชน์จากโครงการเที่ยวไทย ๕ ภาค
ผู้ประกอบการนำเที่ยว มีงานเพิ่มขึ้น
สมาชิก สธทท. ได้ช่วยเหลือกัน
มีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้น เนื่องด้วยผู้ประกอบการแต่ละท่านมีมุมมองต่างกัน
มีเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ขึ้น 
มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น
กิจกรรมต่อเนื่องที่คาดว่าจะจัดหลังจากโครงการนี้คือ
- จัดงาน TTPA Travel Mart ในทุกภูมิภาค อย่างน้อย เดือนละ 1 ครั้ง
- จัดนำเที่ยวในเส้นทางท่องเที่ยวที่ไม่เป็นที่นิยม อาทิเช่น หนองบัวลำภู มหาสารคาม
กำแพงเพชร เป็นต้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนนักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วไป
- การทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ประเทศอาเซี่ยน เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม
- ค้นหาชุมชนท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในแต่ละภูมิภาค และช่วยกันบูรณาการ ให้เกิดเป็นชุมชน
ท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับ และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้
สิ่งที่อยากบอกต่อ
- ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ร่วมเดินทางท่องเที่ยว กับ สธทท.
- แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว / ชุมชนท่องเที่ยว 




ผู้สนใจสามารถรับข่าวสารข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Page Facebook สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย 
เว็บไซต์ www.thaitourism.or.th 
หรือโทรศัพท์ สายตรง คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ที่ปรึกษาฯ ดังต่อไปนี้

นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์
นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.)
ประธานโครงการ เที่ยวไทย ๕ ภาค กับ  สธทท.
โทร. 0812512207

1) ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์
ประธานฯ ภูมิภาคภาคกลาง สธทท.
โทร 0985646145

2)คุณชนัฐมนทน์  เงินวิวัฒน์กูล  
ประธานฯ ภูมิภาคภาคใต้ สธทท.
โทร 0615450956


3) คุณกัญญ์วรัณ แผ่พร 
รองประธานฯ ภูมิภาคภาคเหนือ สธทท.
โทร. 0649892462

4) คุณโสดารินทร์  ธนเนืองโรจน์ 
ประธานฯ ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โทร. 0626696441

5) คุณพูลผล  แพทอง 
ประธานฯ ภูมิภาคภาคตะวันออก สธทท.
โทร. 0841047799

6) คุณชัยรัตน์ ด่านวิวัฒนานนท์
ประธานธรรมสถานเมืองกระบี่

7) คุณพรเทพ สีบุญเรือง
หลานพระยาคงคาธราธิบดี
เจ้าเมืองกระบี่

8) อาจารย์​ชัยรัตน์​ด่าน​วิวัฒนา​นนท์​ ประธาน​ธรรมสถาน​เมืองกระบี่

นายพูลผล แพทอง ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย สธทท. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในงาน Meet The Press สธทท. ว่า
“งาน TTPA Travel Mart เป็นงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวที่เป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจและส่งเสริมการขายที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย 5 ภูมิภาค (Sellers) ได้นําเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว หลากหลาย พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเจรจาธุรกิจภายในพื้นที่การจัดงาน
โดยนําเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยมิติใหม่จากสินค้าและบริการ ด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ ผ่านการสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวไทย มีกิจกรรมการสาธิตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับแนวคิดการจัดงานให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน เช่น สินค้าด้าน BCG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าท่องเที่ยวชุมชน หรือสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ตรงกับ Amazing Thailand New Chapters ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจนําเที่ยวทั่วราชอาณาจักรไทย (Buyers) จำนวน 100 ราย จาก 5 ภูมิภาค ผู้ขาย (Sellers) ประมาณ 50 ราย เป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ได้แก่ กลุ่ม MICE กลุ่ม Entertainment กลุ่ม Hospital/Clinic/Health and Wellness กลุ่ม Hotel and Resort กลุ่ม Tour Operator/Travel Agent กลุ่ม Transportation/Carrier กลุ่ม Wedding และธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งสื่อมวลชนสายอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 50 สำนัก เข้าร่วมกิจกรรมด้วย”

#Amazingยิ่งกว่าเดิม 
#AmazingThailand 
#เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ
#หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน
#เทรนดี้C2ภาคกลาง
#หรอยแรงแหล่งใต้ 
#สบ๊ายสบายภาคตะวันออก
#สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย
#ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว
#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
#อื่นๆอีกมากมายท้าทายให้สัมผัส
#ตะลอนไปทั่ว