วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2565

“ไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร ประจำปี 2565”


ททท.สมุทรสงคราม ขอเชิญร่วมงาน “ไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร ประจำปี 2565”
  
นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสงคราม สมุทรสาคร) เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสาคร โดยเทศบาลนครสมุทรสาคร ร่วมกับ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ภาครัฐและเอกชนจังหวัดสมุทรสาคร กำหนดจัดงาน “ไหว้เจ้า 9 ศาลเทศกาลกินเจสมุทรสาคร” เป็นประจำทุกปี เพื่อสืบสานประเพณีถือศีลกินเจอันดีงาม ส่งเสริมสุขภาพประชาชนจากการบริโภคอาหารเจ ที่สะอาด ปลอดภัย ตลอดจนเผยแพร่แนะนำศาสนสถานสำคัญที่ยังรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของการถือศิลกินเจ ณ ศาลเจ้าทั้ง 9 แห่ง รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสาครให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย


โดยในปีนี้กำหนดจัดงานดังกล่าวขึ้นในระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 ณ บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร และศาลเจ้าทั้ง 9 แห่ง ในเขตเทศบาลฯ ประกอบด้วย ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร โรงเจมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ศาลเจ้าแม่กวนอิมพันมือคลองจาก ศาลเจ้าปุนเถ้ากงคลองมหาชัย ศาลเจ้าแม่จุ๋ยบ๋วยเนี้ย โรงเจเชงเฮียงตั๊ว ศาลเจ้าปุนเถ้ากงท่าฉลอม ศาลเจ้าพ่อกวนอู และ อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม


และการจัดงานของทุกปีจะตรงกับช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน รวมทั้งชาวสมุทรสาครด้วย เนื่องจากในอดีตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองท่าที่มีชาวจีนอพยพมาตั้งถิ่นฐานทำมาหากิน จึงมีชาวไทยเชื้อสายจีนที่ยังคงอนุรักษ์ประเพณีที่ดีงามนี้และสืบทอดกันต่อมา


ซึ่งนอกจากจะให้คุณค่าทางจิตใจแล้ว การงดเว้นเนื้อสัตว์หันมาบริโภคผัก ผลไม้ และธัญพืช ที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารมีคุณค่าทางโภชนาการ ยังเป็นการเสริมสร้างสุขภาพ ล้างพิษในร่างกาย ผู้บริโภคอาหารเจในแต่ละปีจึงมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งชาวจีนที่อพยพมาที่สมุทรสาครยังได้สร้างศาลเจ้าขึ้นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจตามความเชื่อมากมายหลายศาล


และเพื่อเป็นการแนะนำเส้นทางการเดินทางร่วมกิจกรรมไหว้เจ้า 9 ศาล สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ได้ร่วมกับคณะผู้จัดงานฯ จัดทำ “Passport  ไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร” เมื่อสักการะศาลเจ้าครบทั้ง 9 ศาลแล้ว ให้ประทับตราลงใน Passport สามารถนำไปขอรับเหรียญ “12 นักษัตร ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย” ประจำปี 2565 ได้ฟรี !! มีจำนวนจำกัดเพียง 10,000 เหรียญเท่านั้น โดยสามารถขอรับ Passport ได้ที่ เทศบาลนครสมุทรสาคร และ ศาลเจ้าทั้ง 9 แห่ง


นอกจากนี้บริเวณลานข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ยังมีการจำหน่ายอาหารเจกว่า 100 เมนู จากร้านค้ากว่า 50 ร้าน ซึ่งมีการควบคุมคุณภาพ ความสะอาดปลอดภัย ตามมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร ตลอดการจัดงานฯ ทั้ง 10 วัน พร้อมทั้งได้จัดรถราง เป็นยานพาหนะบริการนักท่องเที่ยวและประชาชนในการเที่ยวชมศาลเจ้าตามเส้นทาง Passport ท่องเที่ยวฟรีตลอดงานอีกด้วย


ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านเดินทางมาร่วมงานไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร ให้สุขกาย สุขใจ อิ่มบุญ อิ่มท้อง ตลอดการจัดงานนี้


ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครสมุทรสาคร โทร. 0 3441 1028 หรือ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8   E-mail : tatsmsk@tat.or.th และ Inbox : https://www.facebook.com/TATSamutSongkhram

#TATSamutSongkhram #สมุทรสาคร
#TrendyC2ภาคกลาง #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง
#เที่ยวเมืองไทยamazingยิ่งกว่าเดิม #AmazingThailand  #ตะลอนไปทั่ว

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2565

แถลงข่าวยิ่งใหญ่! ONE LUMPINEE เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กับดีลประวัติศาสตร์ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่สู่วงการมวยไทยทั้งระบบ



วันนี้ 12 กันยายน 2565 "นายชาตรี ศิษย์ยอดธง" ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอ ONE พร้อมด้วย "พลเอกสุชาติ แดงประไพ" ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี) แถลงข่าวประกาศความร่วมมือ เตรียมจัดการแข่งขันมวยไทยโปรดักชันระดับโลกในชื่อศึก “ONE LUMPINEE” ณ สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา กรุงเทพ โดยมีเหล่าโปรโมเตอร์ หัวหน้าคณะ ค่ายมวย นักมวยไทย บุคลากรในวงการกีฬาทั้งภาครัฐและเอกชน สื่อมวลชน ตลอดจนแฟนคลับ เดินทางมาร่วมงานกว่า 1,000 คน
 นายชาตรี ศิษย์ยอดธง เปิดเผยว่า “สนามมวยเวทีลุมพินี ถือเป็นสนามมวยอันทรงเกียรติยศสูงสุดแห่งวงการมวยไทยมาอย่างยาวนาน เป็นสถานที่ให้กำเนิดแชมป์มวยไทย และนักชกระดับตำนานมาแล้วหลายยุคหลายสมัย และนักชกซึ่งเป็นแชมป์โลกของ ONE หลายคนก็มีความหลังกับสนามมวยแห่งนี้ โดยสนามมวยเวทีลุมพินีมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้กีฬามวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้จริงๆ โดยปลอดการพนัน มีมาตรฐานที่จะก้าวไปสู่ระดับโลกได้ จึงเป็นที่มาของการตอบรับคำเชิญจากกองทัพบกในการรับตำแหน่งโปรโมเตอร์ประจำสนามมวยเวทีลุมพินีในครั้งนี้”

“ลุมพินีได้รับการยกย่องว่าเป็นเมกกะมวยไทยแห่งหนึ่งของโลก ความร่วมมือกับ ONE ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์ศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผมมั่นใจว่าจะสามารถสร้างปรากฎการณ์ใหม่ และช่วยยกระดับมวยไทยไปสู่ระดับโลกได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเราจะนำระบบการจัดการแข่งขันมาตรฐานเวิลด์คลาสของ ONE ที่เป็นสปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ มีความสนุกสนาน ตื่นเต้น เร้าใจ และมีเกณฑ์การตัดสินที่เที่ยงธรรมได้มาตรฐานสากล มาจัดให้แฟน ๆ ได้รับชมกันอย่างจุใจในชื่อศึก ONE LUMPINEE และยังต่อยอดสู่การเป็นคอนเทนต์ระดับโลกที่ช่วยโปรโมตประเทศไทยไปในตัว ถ่ายทอดสดไปมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก ผู้ชมมากกว่า 60 ล้านคนในทุกแพลตฟอร์ม"

“สำคัญที่สุด เราพร้อมจะให้ค่าตอบแทนที่สูงที่สุดในประเทศไทยแก่นักมวยที่เข้าแข่งขันใน ONE LUMPINEE เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของนักกีฬา พร้อมเปิดกว้างให้ค่ายมวยทุกแห่งทั่วประเทศส่งนักมวยเข้าแข่งขัน หากใครทำผลงานได้ดีก็จะมีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาในสังกัดของ ONE หรือลงแข่งขันชิงแชมป์ในทัวร์นาเมนท์อื่น ๆ ของ ONE ได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังจะมีการจัดอินเตอร์เนชันแนลไฟต์ ที่รวบรวมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ทั้ง มวยไทย มิกซ์มาเชียลอาร์ต (MMA) คิกบ็อกซิง ฯลฯ ทำให้การรับชมกีฬาการต่อสู้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น”
ด้าน พล.อ.สุชาติ แดงประไพ กล่าวว่า “ทางกองทัพบกมีความตั้งใจอย่างมากที่จะยกระดับมวยไทยให้เป็นกีฬาอย่างแท้จริง เราหวังที่จะเห็นมวยไทยซึ่งไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อที่จะผลักดันมวยไทยให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์สู่ระดับโลก เราจึงมองหาโปรโมเตอร์ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง จึงได้เชิญ ONE ซึ่งเป็นผู้จัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกมาเป็นโปรโมเตอร์จัดศึก ONE LUMPINEE ในครั้งนี้”
“แฟนๆ จะได้เห็นโปรดักชันดีไซน์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในวงการมวยไทย โดยจะมีการจัดแข่งขันเกิดขึ้นทุกสัปดาห์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาได้ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมมวยไทยแล้ว ยังเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมวงการมวยไทยไปสู่ระดับโลกด้วย”
“ทีมงานของสนามมวยเวทีลุมพินี และ ONE จะทำงานร่วมกัน มีการแลกเปลี่ยนกรรมการ และทีมงาน ซึ่งจะทำให้ช่วยเพิ่มองค์ความรู้และประสบการณ์ให้กับบุคลากรในวงการมวยไทยบ้านเราได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรามีผู้ตัดสินชาวไทยหลายคนที่มีความสามารถและฝีมือดี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำงานในองค์กรใหญ่ระดับนานาชาติ การเข้ามาของ ONE จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถสู่สายตาชาวโลกได้มากขึ้น และหากทำได้ดีก็มีโอกาสที่จะต่อยอดไปเป็นกรรมการในศึก ONE ได้ต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ ONE LUMPINEE จะระเบิดศึกนัดแรกรับศักราชใหม่ในเดือนมกราคม 2566 โดยจะจัดการแข่งขันทุกสัปดาห์ อย่างน้อย 52 ครั้งตลอดปี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ สนามมวยเวทีลุมพินี เป็นศูนย์กลางของเมกกะมวยไทย ก้าวสู่การเป็นศูนย์รวมของศิลปะการต่อสู้อันหลากหลายในรูปแบบสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์และการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่สำคัญของไทย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และแฟนเพจ Lumpinee Boxing Stadium