วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2565

เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก


เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก 

วันที่ 30 ตุลาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐิน ประจำปี 2565 ให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำไปถวายแด่พระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดมณีชลขัณฑ์ ตำบลพรหมมาสตร์ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เพื่อทำนุบำรุงและสืบทอดพระพุทธศาสนา

โดยมี พระปัญญาวิสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี (ฝ่ายธรรมยุต) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน ถวายแด่พระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร ผู้ว่าการททท.นาย ยุทธศักดิ์ สุภสร นางสาว พิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวสำนักงานลพบุรี รองผู้ว่าททท. นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัลวิจัยและพัฒนา  นาย ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด นางสมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหาร นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศร่วมด้วยพนักงาน และลูกจ้าง ททท. รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน  สมาชิกชมรมอดีตพนักงาน ททท. รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานใน ททท. และประชาชน เข้าร่วมพิธีฯ โดยพร้อมเพรียงกัน
ในการนี้ ททท. ได้ปวารณาถวายจตุปัจจัยถวายพระราชกุศลรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,069,154.86 บาท "Trendy C2 ภาคกลางเพิ่มพลังบวก" กิจกรรมถวายผ้ากฐินพระราชทาน ประจำปี 2556 และ ท่องเที่ยวเส้นทาง พระนครศรีอยุธยา-สิงห์บุรี-ลพบุรี  
เมื่อวันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง นำโดยนางสาวสุรีพร พงษ์พานิช ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายชัยวิทย์ เผื่อนอุดม หัวหน้างานภาคกลาง 1 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านเมนูประสบการณ์ "Trendy C2 ภาคกลางเพิ่มพลังบวก” นำนักท่องเที่ยวพร้อมสื่อมวลชนจากส่วนกลาง 2 รถบัส จำนวน 80 ท่าน เดินทางท่องเที่ยวเส้นทาง กรุงเทพมหานคร -พระนครศรีอยุธยา - สิงห์บุรี –ลพบุรี พร้อมทั้งร่วมพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน ประจำปี 2556 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ วัดมณีชลขันฑ์ จังหวัดลพบุรี เริ่มโปรแกรมเที่ยวมุ่งหน้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจุดหมายแรก เข้าชม “พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน” ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปหัตถกรรมของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้คัดเลือกจากงานที่มีความงดงามทรงคุณค่าจนถือเป็นศิลปของแผ่นดิน จากนั้นเข้าสักการะ "วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร" ซึ่งเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงโปรดเกล้าฯปฏิสังขรณ์ใน พ.ศ.2328 ชมจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย
จากนั้นเดินทางเข้าสู่จังหวัดสิงห์บุรี ร่วมทำทำกิจกรรม DIY ผ้าเช็ดหน้าพิมพ์ลายมัดย้อม ณ กลุ่มผลิตภัณฑ์ ผ้าหมักโคลน ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี จากนั้นเดินทางเข้าสู่จังหวัดลพบุรี เข้าสักการะ “วัดไลย์” ต.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ชมพิพิธภัณฑสถานวัดไลย์ และกราบสักการะพระศรีอาริย์ หลังจากนั้นเดินทางเข้าที่พัก “โรงแรมไชยแสงพาเลส” ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับคณะฯ
วันที่ 30 ตุลาคม 2565 ช่วงเข้าร่วมร่วมพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน ประจำปี 2556 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ วัดมณีชลขันฑ์ จังหวัดลพบุรี หลังพิธีเข้าไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนารายณ์ราชนิเวศน์” จ.ลพบุรี และปิดท้ายด้วยการแวะชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ณ ศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา โรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์



 #เที่ยวภาคกลาง
#TrendyC2​ #TrendyC2เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก #เที่ยวไทย #ตะลอนไปทั่ว

ททท.สนง.ลพบุรี​ ต้อนรับคณะ Trendy C2 เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก

เมื่อ​วันที่ 29 - 30 ตุลาคม 2565 นางสาวพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี พร้อมคณะฯ ได้เดินทางต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่คณะ Trendy C2 เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก นำคณะนักท่องเที่ยว จำนวน 80 ท่าน เดินทางในเส้นทาง กรุงเทพฯ - พระนครศรีอยุธยา-สิงห์บุรี-ลพบุรี เข้าร่วมงานถวายผ้าพระกฐิน ประจำปี 2565 ในวันที่ 30 ตุลาคม 2565 ณ วัดมณีชลขัณฑ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี ทั้งนี้คณะได้เดินทางเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี และ จ.ลพบุรีดังนี้
-กลุ่มผลิตภัณฑ์ ผ้าหมักโคลน ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ทำกิจกรรม DIY ผ้าเช็ดหน้าพิมพ์ลายมัดย้อม พร้อมมอบให้กับนักท่องเที่ยวท่านละ 1 ผืนกลับบ้าน
📍วัดไลย์ ต.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ชมพิพิธภัณฑสถานวัดไลย์ และกราบสักการะพระศรีอาริย์ วัดไลย์
📍ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จ.ลพบุรี
📍แวะชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ณ ศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา โรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์
📍ศูนย์การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา โรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ จังหวัดลพบุรี


#ทททลพบุรี​ #ลพบุรี​ #สิงห์บุรี​ #เที่ยวภาคกลาง
#TrendyC2​ #TrendyC2เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก #เที่ยวไทย #ตะลอนไปทั่ว 
    

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2565

Trendy C2 เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก

เริ่มต้นการเดินทางเพิ่มพลังบวก กับ

Trendy C2 เที่ยวภาคกลางเพิ่มพลังบวก
เส้นทางกรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ลพบุรี
วันที่ 29 -​ 30 ตุลาคม 2565

โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคกลาง  -​ เที่ยวไทยฯ

#TrendyC2 #เที่ยวภาคกลาง #เที่ยวไทยฯ #ตะลอนไปทั่ว #ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว

ททท.ฉะเชิงเทรา​ ขอเชิญร่วมงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปี จังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2565


ททท.ฉะเชิงเทรา​ ขอเชิญร่วมงานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปี จังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2565


จังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับวัดโสธรวรารามวรวิหาร หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน กำหนดจัดงานนมัสการ
หลวงพ่อโสธร และงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2565 จัดระหว่างวันที่ 5 – 14 พฤศจิกายน 2565 ณ
วัดโสธรวรารามวรวิหาร และบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา


นายจิรศักดิ์ อ่วมอุไร ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา กล่าวว่า งานเทศกาลกลางเดือนสิบสอง วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 6 ค่ำ เดือน 12 (เดือนพฤศจิกายน) ผู้ริเริ่มจัดงานกลางเดือน 12 คือโต้โผทรัพย์ เจ้าของละครคลองโสธร มูลเหตุมีอยู่ว่า ในปี พ.ศ. 2433 ประชาชนชาวโสธรประสบภัยข้าวยากหมากแพง ฝนแล้ง ข้าว และผลหมากรากไม้ไม่ได้ผล โรคห่า (อหิวาต์) และโรคพุพอง (ฝีดาษ) ระบาดไปทั่ว ผู้คนและสัตว์เลี้ยงล้มตายเป็นอันมาก ประชาชนทิ้งบ้านเรือนไร่นาเพื่อหนีโรคภัย ผู้เจ็บป่วยรอไม่ไหวก็รอวันตายเพราะหาหมอรักษาได้ยาก เมื่อถึงคราวเข้าตาจนเช่นนี้ บรรดาพุทธศาสนิกชนจะมีอะไรเป็นที่พึ่งยิ่งไปกว่าพระ ต่างคนจึงพากันบนบานต่อหลวงพ่อให้ช่วยลูกช้างด้วย บ้างก็

ขอยาดีหลวงพ่อ คือขี้ธูปบ้าง น้ำมนต์บ้าง ดอกไม้ที่บูชาบ้าง รับมาทานมาทา บ้างก็บนบานว่า ถ้าหายแล้วจะปิดทอง บ้างก็บนบานด้วยละครและมหรสพสมโภช คนไทยบนด้วยลิเก และละครแก้บน ฝ่ายจีนก็บนงิ้ว ล่อโก๊ สิงโต ฯลฯ
ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเป็นเรื่องมหัศจรรย์ยิ่งนัก จู่ ๆ ฟ้าฝนซึ่งแห้งแล้งอยู่นานก็โปรยปรายลงมา พาให้ประชาชนเบิกบาน แผ่นดินชุ่มชื่น โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ หายเป็นปลิดทิ้ง
ชาวบ้านชาวเมืองจึงร่วมกับนายทรัพย์จัดงานฉลองสมโภชหลวงพ่อครั้งใหญ่เพื่อแก้บน จึงเกิดงานนมัสการ หลวงพ่อโสธร และงานประจำปี มีการเฉลิมฉลองเป็น
งานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดเป็นต้นมา โดยในปี 2565 เตรียมกิจกรรมที่แปลกใหม่ ทั้งเกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและภาพลักษ์ของจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย
กิจกรรมในงานนมัสการหลวงพ่อโสธรฯ โดยมีรายละเอียดดังนี้

 


วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564   (พิธีบวงสรวง และขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางบก)
เวลา 04.19 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี ถวายเครื่องราชสักการะ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
เวลา 05.09 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี บวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองฉะเชิงเทรา
เวลา 05.49 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี จุดธูปเทียน  บวงสรวงปู่ท้าวมหาพรหม
เวลา 06.09 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี เดินทางมาถึงบริเวณมุขด้านหน้าพระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร / ทำพิธีบวงสรวง
เวลา 07.29 น. พิธีเปิดงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี จุดธูปเทียนบูชาหลวงพ่อโสธร และถวายทองแผ่น มาลัยกร
เวลา 07.45 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี เข้าสู่บริเวณปะรำพิธีเปิดงาน
- ปลัดจังหวัดกล่าวรายงาน
- ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี กล่าวขอบคุณผู้เกี่ยวข้อง และลั่นฆ้องชัย 3 ครั้ง (วงโยธวาทิตบรรเลงเพลงมหาฤกษ์)
เวลา 07.49 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานพิธี จุดธูปเทียนบูชาองค์หลวงพ่อโสธร (จำลอง) ณ รถอัญเชิญองค์หลวงพ่อโสธร (จำลอง) และปล่อยขบวนรถแห่องค์หลวงพ่อโสธรไปตามเส้นทางที่กำหนด
สำหรับเส้นทางขบวนแห่องค์หลวงพ่อโสธรทางน้ำแบ่งเป็น 2 วัน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 (ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ) (ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 12 )  ณ ท่าน้ำวัดโสธรฯ 
เวลา 06.30 น. ขบวนเรือหลวงพ่อโสธรเคลื่อนออกจากท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร มุ่งไปสู่อำเภอ
บางปะกง และจอดเทียบท่าต่างๆ รวมจำนวน 11 ท่า

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 (ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ)  (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ) 
เวลา 06 00 น. ขบวนเรือหลวงพ่อโสธร ออกจากท่าน้ำวัดโสธร ฯ ล่องไปตามลำน้ำ มุ่งไปสู่อำเภอบางคล้าและจอดเทียบท่าต่างๆรวมจำนวน 14 ท่า

วันที่ 5 - 14 พฤศจิกายน 2565  งานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2565 10 วัน 10 คืน



นอกจากมางานนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีฉะเชิงเทราแล้ว อยากเชิญชวนมาสร้างสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยว ด้วยการสร้างเรื่องราวการท่องเที่ยวเชิงศาสนา สายศรัทธา ที่สามารถมาท่องเที่ยวได้ ในทุกๆวัน เนื่องจากจังหวัดฉะเชิงเทรามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่มีความโดดเด่น สถานที่สำคัญ เพื่อมาสักการะ กราบไหว้ และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ วัดโสธรวรารามวรวิหาร วัดสมานรัตนาราม วัดจุกเฌอ อุทยานพระพิฒเนศคลองเคลื่อน วัดห้วยน้ำทรัพย์ (องค์หลวงพ่อปลดหนี้) เป็นต้น  และนอกจากนี้จังหวัดฉะเชิงเทรามีแม่น้ำบางปะกง เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ใช้ประโยชน์ทั้งการอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม รวมไปถึงแหล่งทำการประมง  โดยชูจุดเด่นในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดฉะเชิงเทรา อาทิ กุ้งแม่น้ำ มะม่วง ข้าว  เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า สัมผัสกับประสบการณ์การกินอาหารถิ่นจากวัตถุดิบอาหารชุมชน ใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวที่ยาวนานยิ่งขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว โครงการพระราชดำริ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวชุมชน


จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว ร่วมชมขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางบก และทางน้ำ ทั้งนี้ ยังมีงานประจำปี
จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดระหว่างวันที่ 5 - 14 พฤศจิกายน 2565 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา และ
ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงศาสนา สายศรัทธา เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า เพื่อมาสักการะ กราบไหว้ และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสกับประสบการณ์การกินอาหารถิ่นจากวัตถุดิบอาหารชุมชน ใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวที่ยาวนานยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดการพักค้าง และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว โครงการพระราชดำริ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวชุมชน



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา หมายเลขโทรศัพท์ 0 3851 4794 หรือ ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา หมายเลขโทรศัพท์ 0 3851 4009


#งานนมัสการหลวงพ่อโสธร #งานประจำปี #ฉะเชิงเทรา #ตะลอนไปทั่ว #หลวงพ่อโสธร #วัดโสธร #แปดริ้ว #แปดริ้วStory #แปดริ้วสตอรี่ #วัดสวยใกล้กรุงเทพ #เรารักแปดริ้ว #แปดริ้วซิตี้ #ตลาดคนแปดริ้ว

"ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลองตามครรลองวิถีพอเพียง ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์" 2565

ททท.สมุทรสงคราม ขอเชิญร่วมงาน "ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง
ตามครรลองวิถีพอเพียง ปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์" ประจำปี 2565
5-8 พฤศจิกายน 2565 
ณ อุทยาน ร.2 และวัดภุมรินทร์กุฎีทอง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม


นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรสงคราม มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และโครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ (มูลนิธิชัยพัฒนา) กำหนดจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงคราม “แชะ ช้อป ชิมอาหารบ้านฉัน ชมจันทร์วันเพ็ญ” และงานประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง ตามครรลองวิถีพอเพียง ปลอดภัยไร้ซึ่งแอลกอฮอล์ ประจำปี 2565 ในระหว่างวันที่ 5-8 พฤศจิกายน 2565 ณ อุทยาน ร.2 และวัดภุมรินทร์กุฎีทอง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม 
“ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง” ได้รับการบรรจุเป็น 1 ในพื้นที่เอกลักษณ์ 6 พื้นที่ในโครงการ “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ของ ททท. ทำให้เกิดการรับรู้อย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ โดยจังหวัดสมุทรสงครามได้ผนวกวิถีชีวิตที่พอเพียงในดินแดนแห่งเมืองแม่กลองนี้ ให้เข้ากับประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยที่มีมาช้านาน ที่เชื่อว่าเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา อีกทั้งยังเป็นการบำรุงรักษาซึ่งจารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้ดำรงไว้ สืบต่อไปจนอนุชนคนรุ่นหลัง ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงคราม ยกระดับงานประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยให้เป็นงานระดับประเทศ รวมทั้งเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบสร้างสรรค์ที่จะสะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์ วิถีชีวิตและการถ่ายทอดมรดกทางภูมิปัญญาโดยเป็นประเพณีที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีความเรียบง่าย เพียงนำกาบกล้วยมาประดิษฐ์เป็นกระทงก็สามารถลอยไปตามลำคลองได้... 
 และด้วยความสวยงามของกระทงกาบกล้วยที่ลอยสว่างไสวไปทั่วแม่น้ำแม่กลองทำให้เป็นที่ติดตาตรึงใจของผู้ที่ได้พบเห็น ในปีนี้ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของการลอยกระทงกาบกล้วย จำนวน 100,000 ใบ ซึ่งแสงสว่างสวยงามที่เห็นในคุ้งน้ำนั้น ได้มาจาก “ธูปแทนเทียน” ที่ปักติดไปกับกาบกล้วย และการทำธูปสำหรับลอยกระทงกาบกล้วยเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนจังหวัดสมุทรสงคราม โดยนำธูปไปชุบน้ำมันยาง และผึ่งแดดให้แห้งประมาณ 3 รอบ เมื่อนำมาจุดไฟแล้วจะทำให้ไม่ดับ อยู่ได้นาน และทำให้ดูสว่างไสวระยิบระยับเหมือนแสงดาวเป็นสายเปล่งประกายเต็มคุ้งน้ำแม่กลอง 
ภายในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ บริเวณอุทยาน ร.2 อาทิ
- การประกวดกระทง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 
- การประกวดรำวงตามบทร้อง (พื้นบ้าน) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 
- การประกวดธิดาแกงแก้วตา, การประกวดนางนพมาศ, การประกวดคู่หนูน้อยนพมาศ ชิงถ้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม 
- สาธิตการประกอบอาหาร "อาหารบ้านฉัน" / อาหารคาว-หวาน
- สาธิตการทำกระทง / สาธิตการทำธูปแทนเทียน
การแสดงดนตรีในสวน / นิทรรศการประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย
- การออกร้านจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นเมืองสมุทรสงคราม สินค้าโอทอป ผลิตผลทางเกษตร กว่า 40 ร้านค้า
- กิจกรรม “นุ่งโจงห่มสไบ แต่งชุดไทย ไปลอยกระทง” เพียงท่านแต่งชุดไทยมาเที่ยว อุทยาน ร.2 ในช่วงวันที่ 5-8 พฤศจิกายนนี้ และเข้าร่วมกิจกรรม ลุ้นรับรางวัล Gift Voucher ร้านอาหารชื่อดังอัมพวา 6 รางวัล รวมมูลค่า 4,000 บาท
- ร่วมชมกระทงกาบกล้วย จำนวน 200,000 ใบ ลอยเป็นสายสว่างไสวบนผืนน้ำ สองฝากฝั่งวัดภุมรินทร์กุฎีทองและอุทยาน ร.2
- และกิจกรรมสำคัญของงานที่พลาดไม่ได้ คือ “พิธีอาบน้ำเพ็ญ” ด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกบริกรรมคาถาจากเจ้าอาวาส 9 วัดดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง (วัดเกตการาม, วัดจุฬามณี, วัดประดู่, วัดอินทาราม, วัดปากง่าม, วัดเพชรสมุทรวรวิหาร, วัดบางกระพ้อม, วัดนางตะเคียน และวัดอัมพวันเจติยามราม) ในเวลาเที่ยงคืนวันเพ็ญ ซึ่งเป็นสุดยอดฤกษ์มงคล 1 ปี มีเพียง 1 ครั้ง ให้นักท่องเที่ยวสายมู (มูเตลู) เดินทางมาเพิ่มพลังบวก “เพิ่มพลังใจด้วยศรัทธา” โดยเชื่อว่า การขอพรพระจันทร์และพิธีอาบน้ำเพ็ญท่ามกลางแสงจันทร์ ในคืนวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 นั้น เป็นเคล็ดสำคัญ “ยิ่งทำ ยิ่งขลัง ยิ่งมีมงคล” เพิ่มความเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง
- กิจกรรมลอยกระทงกาบกล้วยและทอดผ้าป่าเลไลยก์ทางน้ำ, กิจกรรมกระทงกาบกล้วย, การแสดงดนตรีร่วมสมัย, การแสดงหุ่นกระบอกกลางคลองอัมพวา ณ โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ ในวันที่ 5, 6 และ 8 พฤศจิกายน 2565 ณ โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น.
นอกจากนี้ ททท.สมุทรสงคราม ได้ร่วมสนับสนุนการออกบูธสาธิตทำกระทงกาบกล้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมงานฯ ได้ทดลองทำกระทงกาบกล้วยเป็นของตนเองอีกด้วย จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่านมาชม ชิม แชะ ช้อป สินค้า และอาหารพื้นถิ่นจังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมสัมผัสกับความมหัศจรรย์...สีสันแห่งสายน้ำแม่กลอง “ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย” ในคืนวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา 19.00 น. (โดยประมาณ) ณ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เพื่อเป็นการร่วมกันฟื้นฟู อนุรักษ์ และส่งเสริมประเพณีลอยกระทงให้คงอัตลักษณ์ และสืบสานภูมิปัญญาของชาวจังหวัดสมุทรสงครามให้คงอยู่สืบไป 
อีกทั้ง บริเวณโครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ ยังได้มีการจัดกิจกรรมลอยกระทงกาบกล้วยและทอดผ้าป่าเลไลยก์ทางน้ำ, กิจกรรมทำกระทงกาบกล้วย, การแสดงดนตรีร่วมสมัย, การแสดงหุ่นกระบอกกลางคลองอัมพวา และการแสดงกลองยาวผู้สูงอายุ สร้างความครึกคักให้กับชาวอัมพวา ในวันที่ 5, 6 และ 8 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. อีกด้วย
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น ตลาดร่มหุบ โบสถ์ปรกโพธิ์ วัดบางกุ้ง อุทยาน ร. 2 ตลาดน้ำอัมพวา นั่งพักชิลล์คาเฟ่ริมน้ำ (อัมพวาศรี คาเฟ่, เดอะ บัฟฟาโล่ อัมพวา, สิริสมปองฟาร์ม & คาเฟ่, คาเฟ่โบเน่, Somdul Agroforestry Cafe) เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม โทร. 0 3471 5012 , อุทยาน ร.2 โทร.0 3475 1666, 08 2901 2967 หรือ Facebook Fanpage : ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยและเทศกาลอาหารบ้านฉัน จังหวัดสมุทรสงคราม และ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม โทร. 0 3475 2847-8 E-mail : tatsmsk@tat.or.th หรือ Call Center 1672 เบอร์เดียว เที่ยวทั่วไทย
#ลอยกระทง2565 #ประเพณีลอยกระทง #ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง #สมุทรสงคราม #งานประจำปีสมุทรสงคราม #ตะลอนไปทั่ว #เมืองสายน้ำสามเวลา
#เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง #เที่ยวเมืองไทยamazingยิ่งกว่าเดิม #อัมพวา #สมุทรสงคราม
#ชิลล์ทั้งปี #เที่ยวสมุทรสงคราม #เที่ยวอัมพวา #เที่ยวแม่กลอง #เมืองรองต้องไป
#TrendyC2ภาคกลาง #เที่ยวเมืองไทยAmazingยิ่งกว่าเดิม #AmazingThailand