วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ตามรอย 117 ปี พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้น


องค์การบริหารส่วนตำบลเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ เชิญเที่ยว​ชมงานตามรอยประพาสต้นรัชกาลที่ 5 วัดเขาดินใต้ อ.เก้าเลี้ยว​ จ.นครสวรรค์ 
งานพระปิยมหาราชารำลึก มาตามรอย 117 ปี พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาสต้น
วันที่ 23-29 ตุลาคม 66 นี้
ณ วัดเขาดินใต้ 7 วัน 7 คืน ห้ามพลาด
วันที่ 28 ต.ค. 66
มาชมความยิ่งใหญ่ของการประชันพลุเทิดพระเกียรติ 10 จังหวัด และกิจกรรมน้อมรำลึกอีกมากมายในทุกวันแวะมา อิ่มอร่อยกับตลาดเจ้าค่ะ ได้ทุกวัน
*เชิญชวนกันนุ่งโจงห่มสไบใส่ชุดไทยมาร่วมย้อนเวลาเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน
แล้วพบกัน​ 23-29​ ต.ค. 2566 ณ ตลาดเจ้าค่ะริมแม่น้ำปิง​ วัดเขาดินใต้ อ.เก้าเลี้ยว​ จ.นครสวรรค์ นี้ 🎇🎆
ห้ามพลาด 1 ปีมีครั้งเดียวว!!! 🎊✨


วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ททท. ดึงพันธมิตรร่วมผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ในงาน Amazing Sustainable Event: Business Matching Day สู่โอกาสธุรกิจอย่างยั่งยืน

วันที่ 20 ตุลาคม 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “Amazing Sustainable Event : Business Matching Day” สู่โอกาสธุรกิจอย่างยั่งยืน เปิดเวทีจับคู่เจรจาธุรกิจรูปแบบ B2B
โดยจับมือกับพันธมิตร อาทิ Master Plan, Amari Watergate Hotel, Go Green Booking, Muvmi, Find Folk, Air Asia และ Greatter Good ร่วมเชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่มีแนวคิดใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทั้งผู้ประกอบการรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (TTA) และ Go Green Booking Platform รวม 50 ราย เข้าร่วมยกระดับห่วงโซ่อุปทาน (Shape Supply) และสร้างระบบนิเวศทางการท่องเที่ยวใหม่ที่สมดุลทุกมิติด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ Sustainable Tourism Goals : STGs พร้อมให้ความรู้ผ่านกิจกรรมเสวนาความยั่งยืนกับธุรกิจท่องเที่ยว โดยผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการต้นแบบ ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ
นางสาวณัฐพรรณ ตรีเดชา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า งาน Amazing Sustainable Event : Business Matching Day จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทาน (Shape Supply) โดยขยายผลต่อยอดเพื่อเตรียมความพร้อมและยกระดับของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำให้ไปสู่ตลาดต่างประเทศตามนโยบายของภาครัฐ ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จากเป้าหมาย Sustainable Tourism Goals: STGs และโครงการ Sustainable Tourism Acceleration Rating : STAR ซึ่งจะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญต่อการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุลทุกมิติ
ภายในงาน ประกอบด้วยกิจกรรมไฮไลท์ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ กิจกรรม“Go Green Matching : One Perfect Match สู่โอกาสธุรกิจอย่างยั่งยืน การจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) รูปแบบ Business to Business (B2B) ระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการ ชุมชน และผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดย ททท. เชิญผู้ประกอบการรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Thailand Tourism Awards : TTA) ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 ประเภทคาร์บอนต่ำ
เพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainability) และผู้ประกอบการจาก Go Green Booking Platform รวมทั้งสิ้น 50 ราย จาก 5 ประเภทธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจที่พัก ธุรกิจเส้นทางการท่องเที่ยวหรือรายการนำเที่ยว ธุรกิจสปาหรือกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ร้านอาหาร และร้านค้าหรือสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมงานในฐานะผู้ขาย (Seller)
ขณะที่ผู้ซื้อ (Buyer) มาจากบริษัทจัดนำเที่ยว (DMC) ผู้แทนบริษัทนำเที่ยว (Travel Agent) กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ในประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 30 ราย ถือเป็นเวทีที่สร้างโอกาสทางการขายและสร้าง
ความตระหนักรู้ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการจัดการคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) อย่างเป็นรูปธรรมแก่ผู้ประกอบการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Emergency) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ และเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสร้างเครือข่ายให้กลุ่มผู้ประกอบการที่มีคุณภาพด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วย
              นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้รับความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนกับธุรกิจท่องเที่ยว ผ่านกิจกรรม Special Talk หัวข้อ “เทรนด์ความยั่งยืนกับธุรกิจท่องเที่ยว” โดยวิทยากรผู้มีประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นางสาวปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซปต์แห่งอนาคต ของกลุ่มบริษัท บารามีซี่
ต่อด้วยการเปิดเวทีเสวนา Guru Share ในหัวข้อ “ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ทำเรื่องยั่งยืนอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ” โดยนายกฤษณ์ รุยาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย แปซิฟิค อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด และ ผู้ร่วมก่อตั้งมหาวิทยาลัยความสุขที่ไร่ใจยิ้ม นายธนบูรณ์ สมบูรณ์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรีนเนอรี่ เอสอี จำกัด และนางสาวพิชยา ภู่พวงไพโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ร่วมพูดคุย และนายณัฐวุฒิ ชวินกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง Greatter Good รับหน้าที่พิธีกรภายในงาน
ไม่เพียงเท่านั้น ททท. ยังตอกย้ำ DNA ขององค์กร กำหนดจัดงานแบบ Sustainable Event ด้วยความตั้งใจออกแบบการจัดงานให้มีการสร้างขยะน้อยที่สุด โดยมีแนวคิดการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนที่เกิดขึ้นได้จริง เพื่อลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งภายหลังการจัดงาน ททท. จะนำวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่งภายในงานบริจาคแก่มูลนิธิกระจกเงา เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ระยะยาว
ทั้งนี้ ททท. คาดว่ากิจกรรม Business Matching ครั้งนี้ จะทำให้มีคู่เจรจาธุรกิจในงานกว่า 250 คู่
โดยเป็น Perfect Match มากกว่า 70 คู่ และจะสามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายได้ประมาณ 70 ล้านบาท ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในการสะท้อนความร่วมมือ สร้างความเข้าใจ และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพอย่างแท้จริงต่อไป

วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เรือห้องสมุด Doulos Hope มาถึงกรุงเทพแล้ว🛳️🇹🇭



📣เรือห้องสมุด Doulos Hope มาถึงกรุงเทพแล้ว🛳️🇹🇭

สำหรับท่านที่สนใจขึ้นชมเรือเพื่อเลือกซื้อหนังสือ📚 อาหารและเครื่องดื่ม หรือพบปะกับลูกเรือนานาชาติ ทางเรือจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่อังคาร 17 ตุลาคม 2566 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป (หลังเสร็จพิธีเปิด) และจะเปิดให้ชมไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 
   
อัตราค่าเข้าชม

▪️ตั๋วผู้ใหญ่ 30 บาท
▪️เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้ใหญ่อายุ 65 ปี ขึ้นไป เข้าชมฟรี!

หมายเหตุ

📌ซื้อตั๋วออนไลน์เท่านั้น รายละเอียดตามภาพสื่อประชาสัมพันธ์นี้ค่ะ
📌ผู้เข้าชมเรือจะต้องแสดงตั๋วกระดาษหรือตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขึ้นเรือ 
📌เด็กทุกคนจะต้องมีตั๋วของตัวเอง และต้องมากับผู้ปกครอง

วันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2566

"คอมซิส" จับมือ "ไซแมท" ลุย SOLAR บ้าน ทั่วประเทศ มั่นใจขึ้นแท่นอันดับ 1 ใน ระบบ Micro Inverter ประหยัด ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง



เมื่อ 15 ตุลาคม 2566  ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)  ได้ทำพิธีลงนามสัญญาทางธุรกิจ (MOU) ระหว่าง บริษัท เนเชอรัล เพาเวอร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด และ บริษัท คอมซิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อขยายฐานตลาดโซล่าเซลล์บ้าน ด้วยนวัตกรรมใหม่ระบบไมโคร อินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทะยานขึ้นแท่นอันดับ 1 ในระบบ Micro Inverter



นายจิตทนง นิลพงษ์ CEO บริษัท คอมซิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า บริษัทฯ ได้ก่อตั้งปี 2546 ดำเนินธุรกิจจัดหาระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และจัดจำหน่าย ระบบ Barcode Solution ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มือถือ (Handheld Computer), เครื่องอ่านและเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด (Barcode Scanner and Barcode รวมถึงซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องในการทำงาน โดยทีมงานของบริษัทฯ ได้จัดเตรียมขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของตลาดและลูกค้าที่ได้มีการเติบโตตลอดเวลา และเป็นตัวแทนจดหน่วยออกบิลไฟฟ้า ทางภาคตะวันตกอย่างไทย

จากที่ได้มีการสำรวจพบว่าประชาชนมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นทุกๆ ปี บริษัทฯ จึงมีแนวคิดที่ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าให้น้อยลง ประหยัดพลังงาน และลดภาวะโลกร้อน ด้วยการใช้พลังงานทดแทนแสงอาทิตย์ (Solar Cell)

ในปี 2563 บริษัทฯ จึงได้ขยายธุรกิจเพิ่มเติม เกี่ยวด้านพลังงานทดแทน ภายใต้ชื่อ Comsys Solar โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ภายในประเทศ พร้อมการติดตั้ง บริการแบบครบวงจร โดยติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยนวัตกรรมใหม่ระบบไมโคร อินเวอร์เตอร์ (Micro Inverter) ที่ประหยัด ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง ด้วยทีมงานติดตั้งและซ่อมบำรุง ที่มีคุณภาพอย่างมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนโดยทั่วไป การบริการของเราจะครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ด้วยประสบการณ์ด้านงานขายกว่า 20 ปี



นายสรไกร ศรีสัจจารักษ์ CEO บริษัท เนเชอรัล เพาเวอร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด (NPE) เผยว่า ด้วยบริษัทแม่ของ NPE คือ บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ได้เป็น Distributor รายใหญ่ ของ Micro inverter และเป็นอันดับสองของโลก ที่ Comsys ใช้งานอยู่ คือ Hoymiles  และ Comsys solar เป็นที่รู้จักของ Solar บ้าน และทิศทางของบริษัทฯ ที่จะขยายไปต่างจังหวัด ซึ่งทาง NPE มีสาขา แต่ไม่ชำนาญเรื่อง Solar บ้าน แต่ชำนาญเรื่อง Solar โรงงาน และ Private PPA จึงทำให้เกิดการรวมตัวเพื่อขยายฐานตลาดโซล่าบ้าน และนำจุดเด่นมารวมกัน เพื่อบริการครอบคลุมทุกความต้องของลูกค้าได้อย่างครบวงจรทุกกลุ่มเป้าหมาย

ถ้ามีสาขาต่างจังหวัด จะสามารถรองรับเรื่องดังกล่าวได้ โดยเราจะเริ่มบุกจาก โคราช ขอนแก่น ซึ่งทาง Simat NPE มีสาขาอยู่แล้ว และจะขยายไปจังหวัดใหญ่ทั่วประเทศในปีหน้า



คุณบุญเลิศ เอี้ยวพรชัย CEO บมจ. ไซแมท เทคโนโลยี เผยว่า ในปีแรก ตั้งเป้าหมายไว้สาขาละ 15 ล้านบาท สำหรับโซล่าบ้าน และ 15 ล้านบาท สำหรับ โซล่าโรงงาน ซึ่งปีหน้าจะขยายอีกอย่างน้อย 7 สาขา ทั่วประเทศ คาดว่าจะทำยอดขายเพิ่มขึ้น อย่างน้อย 50% ในปีแรก



คุณวิสูตร วัลลา MD & founder บริษัท คอมซิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า เป้าหมายสูงสุดของการจับมือกับ "ไซแมท" คือ การขยาย Comsys Solar ให้สามารถรองรับความต้องการได้ทั่วประเทศ ทุกกลุ่มเป้าหมาย



นายจิตทนง นิลพงษ์ CEO บริษัท คอมซิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเพิ่มเติม "ตลาดโซล่าเซลล์ ส่วนใหญ่จะเริ่มจากฟาร์ม ขยายมาสู่โรงงาน และบ้านที่อยู่อาศัย  ซึ่งตลาดบ้านเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด แต่ยากที่สุดเช่นเดียวกัน เพราะอาศัยความพึงพอใจของเจ้าของบ้านเป็นหลัก ผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ตอนนี้เป็นบริษัทเล็กๆ ที่เน้นราคา เพราะเหมือนจะทำง่าย แต่บริษัทใหญ่ๆ ไม่เน้นเพราะดูแลยาก หันไปจับตลาดฟาร์มและ โรงงานที่มียอดขายต่อสถานที่มากกว่า ทำให้คู่แข่งที่มีขนาดใหญ่ที่มีมาตรฐานน้อยลง"



ส่วนผู้รับเหมา หรือบริษัทขนาดเล็กที่เล่นเรื่องราคาเป็นหลัก โดยบริการหลังการขายไม่เน้น จะเริ่มหายไปเรื่อยๆ ซึ่งด้วยความเชี่ยวชาญของ Comsys solar ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ ตั้งแต่การสำรวจหน้างาน ติดตั้ง จนถึงบริการหลังการขาย ผนวกกับ สาขา site ขนาดใหญ่ ของ Simat ทำให้เรามั่นใจว่าเราจะก้าวขึ้นเป็น อันดับ 1 ของ SOLAR บ้าน ได้ในอนาคต ซึ่งตอนนี้ ถ้านับเฉพาะ ระบบ Micro inverter อย่างเดียว และติดตั้งแค่ในพื้นที่จำกัด Comsys solar เป็นอันดับ 1 ของจำนวน Site การติดตั้งในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว



บริษัทฯ มีทีมงานติดตั้งและซ่อมบำรุงมืออาชีพบริการหลังการขาย และการรับประกันสินค้า 12 ปี  ซึ่งเป็นจุดเด่นของบริษัทฯ ที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจและเชื่อใจในด้านบริการของบริษัทฯ ตลอดมา



Comsys Solar จะเป็นผู้บริหารจัดการทั้งหมด เหมือนที่เคยประสบความสำเร็จในเขตอื่น โดยจะใช้สาขาและอุปกรณ์การนำเข้า จาก Simat และมั่นใจว่า เราจะทะยานขึ้นแท่นอันดับ1 Solar บ้าน ประเทศไทย

แล้วพบกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ฉลองครบ 20 ปี ของ คอมซิสโซล่า (Comsys Solar)
ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2023 (เมืองทองธานี)
วันที่ 27 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2566
โซน 2 บูธ L30-31 , 62-63

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :
Website : www.comsyssolar.com
Line : @comsys_solar
โทร : 093-449-5954
Facebook : Comsys solar
Youtube : Comsys_solar
Tiktok : @comsys_solar

วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2566

Nasatta Light Festival Winter 🎉


Nasatta Light Festival Winter 
🎉ขอเชิญชมความงดงามตระการตาของศิลปะการจัดแสดงแสงไฟนับล้านในงานแสดงไฟ Nasatta Light Festival Winter Illumination 2024  ที่ ณ สัทธา อุทยานไทย จังหวัดราชบุรี 


🔆 ทุกวันอังคาร-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 
เริ่ม 25 พฤศจิกายน 2023 – 28 เมษายน 2024 เวลา18:00-22:00  

-----------------------------------------------
📸 กล้องพร้อม เมมพร้อม คนพร้อม นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธจำหน่ายอาหาร สินค้าชุมชนของจังหวัดราชบุรี และร่วมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2567 ด้วย
✨✨ สุดพิเศษในช่วงงานลอยกระทงปีนี้ 25 – 30 พฤศจิกายน 2566 มีการจัดกิจกรรมลอยกระทงน้ำแข็งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศได้สัมผัสอีกมิติของวัฒนธรรมลอยกระทงที่แปลกใหม่ด้วย 
💵 ราคาบัตรเข้าชม  💵
#จำหน่ายบัตรล่วงหน้าราคาพิเศษเข้าชมตอนกลางคืน (Early Bird)
เปิดจำหน่ายวันที่ 22 ต.ค. - 23 พ.ย.66
🔹ผู้ใหญ่ 250 บาท
🔹เด็ก 150 บาท
#ราคาเข้าชมปกติเข้าชมตอนกลางคืน
🔹ผู้ใหญ่ 300 บาท
🔹เด็ก 200 บาท
ช่องทางการซื้อบัตรและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Facebook : ณ สัทธา อุทยานไทย 
Website: http://www.nasatta.com/
โทร.  032-383333

#AmazingThailand #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง 
#NasattaLightFestivalWinterIllumination
#NasattaLightFestival #illumination #ณสัทธา 
#ราชบุรี #Ratchaburi #ตะลอนไปทั่ว

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566

แอปเปิ้ลโปแลนด์ เชิญสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ รับชิมรสชาติ พร้อมวางตลาดในไทย



 แอปเปิลโปแลนด์พันธุ์แรกๆ ได้เดินทางมายังประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ภายใต้แคมเปญ "สดจากสวนผลไม้โปแลนด์: แอป เปิ้ลจากใจกลางยุโรป" ได้ดำเนินมาเกือบ2ปีแล้ว ในกรุงเทพฯ มีการจัดชิม
แอปเปิ้ลจากงานอีเวนต์ต่างๆ และแอปเปิลโปแลนด์พร้อมที่จะจัดจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
 
แคมเปญระยะเวลาสองปีที่มุ่งส่ง
เสริมแอปเปิ้ลใจกลางยุโรปจากโปแลนด์ในประเทศไทย  กำลังจะสิ้นสุดลงอย่างช้าๆ หนึ่งในกิจกรรมล่าสุด และมีความสำคัญอย่างยิ่ง ได้แก่ การชิมแอปเปิลสำหรับผู้นำเข้าผลไม้ไทย ตลอดจนสื่อและอินฟูเอ็นเซอร์  แอปเปิ้ลที่เพิ่งได้รับแสงแดดสุดท้ายของฤดูร้อนในสวนผลไม้ใกล้เมืองโกรเยค ประเทศโปแลนด์ ได้ถูกนำเสนอในกรุงเทพฯ
 
คณะผู้แทนจากสมาคม Fruit Union เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เพื่อเจรจาและทำข้อตกลงจัดหาผลไม้จากการเก็บเกี่ยวในปีนี้ ต้องขอบคุณแคมเปญที่ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนสหภาพยุโรป ทำให้แอปเปิ้ลโปแลนด์กลายเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย แม้ว่าการหารือเกี่ยวกับการขายในตลาดครั้งนี้ยังคงเป็นความลับ แต่ผลไม้จะพร้อมจำหน่ายในเครือค้าปลีกแห่งหนึ่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ต้องขอขอบคุณคณะผู้แทนที่ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในกรุงเทพฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกับผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายผลไม้รายสำคัญในประเทศไทย และตัวแทนของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เข้าร่วมการประชุมที่จัดขึ้นเพื่อข้อเสนอที่ดีที่สุด แอปเปิ้ลโปแลนด์ยังคงปรากฏอยู่ในสื่อ และแพลตฟอร์มต่างๆ ทางโซเชียลของไทยด้วย
 
"แคมเปญนี้ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เราได้ทำงานอย่างยิ่งใหญ่ สองปีนี้มีการประชุม B2B การเจรจากับบริษัทหลัก ๆ หลาย100ครั้ง และเพื่อให้แน่ใจว่าผลไม้ล็อตแรกจะตอบสนองความคาดหวังที่ดีที่สุดของผู้บริโภคไทย "พิออตร์ จาโนต้า  ประธานสมาคม Fruit Union กล่าว
 
โปแลนด์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแอปเปิ้ลชั้นนำในยุโรปและครองตำแหน่งสูงสุดในหมู่ผู้ผลิตแอปเปิ้ลชั้นนำของโลกมาโดยตลอด การผลิตในท้องถิ่นยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเจ้าของสวนผลไม้เปิดรับช่องทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการปกป้องผลผลิต ช่วยให้พวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากมายในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพสูงสุดไว้ได้ ผู้บริโภคทั่วโลกเลือกแอปเปิ้ลจากสวนผลไม้ในโปแลนด์
 
ประมาณการระบุว่าในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง โปแลนด์จะเก็บเกี่ยวแอปเปิ้ลได้ประมาณ 4 ล้านตัน ส่วนหนึ่งของพวกเขาจะมองหาตลาดในตะวันออกไกลซึ่งชื่นชอบรสชาติแอปเปิ้ลโปแลนด์เป็นพิเศษในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
 
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 'สดจากสวนผลไม้แห่งโปแลนด์: แอปเปิ้ลจากใจกลางยุโรป' ประเทศโปแลนด์ได้ส่งเสริม และพัฒนาความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้ค้าส่งในประเทศไทยมาเป็นเวลาสองปีแล้ว ปัจจุบันคณะผู้แทนจากโปแลนด์ ได้เข้าร่วมประชุมทางธุรกิจและกิจกรรมท้องถิ่นในอุตสาหกรรมอาหารเสมอ เช่น งาน Thaifex Anuga ซึ่งจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีนี้ที่กรุงเทพฯ
 
แอปเปิ้ลที่จำหน่ายในตลาดของไทยจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่เข้มงวด 
ผู้บริโภคในท้องถิ่นคาดหวังว่าผลไม้จะกรอบ ชุ่มฉ่ำ และมีสีที่น่าดึงดูด พันธุ์ Gala ซึ่งเป็นผู้นำในการส่งออกของโปแลนด์ ได้รับความนิยมเป็นพิเศษจากผู้บริโภคที่มีวิสัยทัศน์ เนื่องจากมีเนื้อครีมที่หวานและสีสวยดังดอกกุหลาบ การเก็บเกี่ยวแบบกาล่าเริ่มขึ้นเมื่อก.ย.
 
คุณสมบัติที่คล้ายกันนี้แสดงให้เห็นโดยพันธุ์ Red Jonaprince และ Red Delicious ทั้งสองมีลักษณะเด่นคือความชุ่มฉ่ำและมีสีแดงเข้ม นอกจากนี้ Red Jonaprince ยังมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว การเก็บเกี่ยวสำหรับพันธุ์เหล่านี้จะอยู่ในช่วงกลางก.ย.และเปลี่ยนจาก ก.ย.-ต.ค.ตามลำดับ
 
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการเก็บเกี่ยวพันธุ์เหล่านี้ในปีนี้ มีแนวโน้มที่ดีมากและผู้บริโภคสามารถคาดหวังถึงคุณภาพระดับสูงได้