วันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566

‘เอสซีจี โซลาร์ รูฟ โซลูชัน’ รุกตลาดด้วย SCG Solar Expert Station คาดเติบโต 200% ในปี 66 ขยายให้บริการทั่วประเทศ ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมหลังคาโซลาร์

เอสซีจี ผู้นำด้านวัสดุก่อสร้าง รวมถึงสินค้าและนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยครบวงจร ส่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัย ‘เอสซีจี โซลาร์ รูฟ โซลูชัน’ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมระบบหลังคาโซลาร์ ผลักดันศักยภาพชูกลยุทธ์ด้วย SCG Solar Expert Station สร้างจุดเชื่อมระหว่างลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโซลาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า สามารถติดต่อและเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ควบคู่การยกระดับด้านความเชี่ยวชาญและมาตรฐานระบบหลังคาโซลาร์อีกขั้น พร้อมรุกตลาดโซลาร์อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 200% ภายในปี 2566
คุณวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า ‘เอสซีจี โซลาร์ รูฟ โซลูชัน’ ในฐานะผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมระบบหลังคาโซลาร์ พร้อมโซลูชันครบวงจร ได้เล็งเห็นเทรนด์และแนวโน้มความนิยมด้านพลังงานสะอาด หรือพลังงานทดแทน จึงได้พัฒนานวัตกรรมหลังคาโซลาร์รูฟมาไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยให้บริการติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์แบบครบวงจร พัฒนาสินค้านวัตกรรมให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะระบบการยึดติดแผงโซลาร์โดยไม่ต้องเจาะหลังคา เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องหลังคารั่วด้วย Solar FIX ตลอดจนพัฒนาสินค้าและบริการให้เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนและผลักดันให้พลังงานสะอาดสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งยอมรับว่าเป็นความท้าทายอย่างมากในการทำการตลาดระบบหลังคาโซลาร์ในไทย ที่นับได้ว่าเป็นเรื่องใหม่และกำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในปัจจุบัน แต่ส่วนใหญ่ยังต้องการความรู้และความเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยกลยุทธ์ที่ต้องมุ่งเน้นไปพร้อม ๆ กันคือการสื่อสารเกี่ยวกับระบบหลังคาโซลาร์แก่ผู้บริโภค เริ่มตั้งแต่ความจำเป็น การติดตั้ง การใช้งาน รวมถึงความคุ้มค่าระยะยาว”
ซึ่งปัจจุบันยังพบว่าพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น ส่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้นเฉลี่ย 30-50% และผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใช้พลังงานทดแทนเพิ่มมากขึ้นถึง 12-15% และคาดการณ์ว่าภายในปี 2050 สัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนของโลกจะสูงขึ้นถึง 85% ซึ่งสามารถชี้วัดได้ว่าการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงตามลำดับ อาทิ การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว รวมไปถึงปัจจัยร่วมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อัตราค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดในช่วงที่ผ่านมา ภาครัฐมีมาตรการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ประกอบกับด้านเทคโนโลยีในการติดตั้งและต้นทุนวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกลง ไปจนถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นำระบบโซลาร์รูฟเข้ามาใช้เป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับโครงการที่อยู่อาศัย ตลอดจน Solar Energy Trading การซื้อขายพลังงานไฟฟ้าระหว่างครัวเรือน ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต ล้วนแล้วแต่มีส่วนช่วยเร่งให้พลังงานทางเลือกเพิ่มระดับความนิยมที่เข้มข้น รวมถึงผลักดันให้ตลาดโซลาร์รููฟเติบโตได้ดียิ่งขึ้น” 
จากเทรนด์และเทคโนโลยีโซลาร์รูฟที่กำลังได้รับความนิยมในวงกว้าง โดยเฉพาะภาคครัวเรือนที่มีโอกาสเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ เอสซีจีจึงได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมหลังคาโซลาร์ เดินหน้าด้วยกลยุทธ์ SCG Solar Expert Station โมเดลธุรกิจที่ถูกพัฒนาขึ้นจาก Insight ของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ โดยสร้างจุดเชื่อมระหว่างลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบหลังคาโซลาร์โดยตรง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า สามารถติดต่อและเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องได้รวดเร็วขึ้น ทำให้การติดตั้งหลังคาโซลาร์ รูฟ เป็นไปได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดย SCG Solar Expert หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโซลาร์จะให้คำปรึกษาฟรี แนะนำขั้นตอนและระบบการทำงาน, ออกแบบระบบหลังคาโซลาร์ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมประเมินราคา โดยมีแผนขยายไปที่ SCG Home, SCG Home Experience และ SCG Authorized Dealer ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ มีสาขานำร่อง อาทิ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชลบุรี อุบลราชธานี เชียงใหม่ และหาดใหญ่ พร้อมขยายไปยังหัวเมืองหลักเพื่อครอบคลุมทั่วประเทศ ภายในปี 2566
“โดยในช่วงปีที่ผ่านมา ‘เอสซีจี โซลาร์ รูฟ โซลูชัน’ เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง พร้อมรุกขยายไปยังตลาดบ้านพักอาศัยที่มีศักยภาพสูง ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านระบบหลังคาโซลาร์ในตลาด Residential ประเทศไทย โดยคาดการณ์จากตัวเลขภายในปี 2566 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 200% ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด ผ่าน 3 จุดแข็ง คือ EXPERT เอสซีจีมีวิศวกรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Solar & Home Energy management และมีความเชี่ยวชาญด้านหลังคาซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการติดตั้งโซลาร์ โดยมีบริการตรวจสุขภาพหลังคาก่อนการติดตั้ง พร้อมนวัตกรรม Solar FIX ที่ติดตั้งหลังคาโซลาร์โดยไม่ต้องเจาะหลังคา ทำให้หลังคาไม่เสี่ยงต่อการรั่วซึม ONE STOP SERVICE การให้บริการแบบครบวงจร โดยออกแบบระบบโซลาร์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ไฟของบ้านลูกค้า รวมถึงดำเนินการ ขออนุญาตกับทางภาครัฐ ทำให้การติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์กับเอสซีจีถูกต้องตามกฎหมาย 100% และ AFTER SALES SERVICE การรับประกันตลอด 25 ปีโดยเอสซีจี
ยิ่งไปกว่านั้น ยังถือเป็นโอกาสสำคัญให้คนไทยเกิดการตื่นตัวในเรื่องของพลังงานทดแทน ด้วยการยกระดับพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมประสิทธิภาพโซลาร์เซลล์อย่างสูงสุด โดยให้เหมาะสมต่อพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าและสภาพแวดล้อมของไทย ในฐานะที่เอสซีจีเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านระบบหลังคามาอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันและอนาคต” คุณวชิระชัย คูนำวัฒนา กล่าวทิ้งท้าย    
พบกับ SCG Solar Expert Station ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบหลังคาโซลาร์ได้ที่หน้าร้าน SCG HOME Experience, SCG HOME และ SCG Authorized Dealer สาขานำร่อง หรือดูรายละเอียดได้ที่ https://www.scgbuildingmaterials.com/th/solution/solar-roof และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SCG Contact Center 02-586-2222
__________________________________

วัดสมุหประดิษฐาราม ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี

วัดสมุหประดิษฐาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลสวนดอกไม้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ต้นตระกูลกัลยาณมิตร สร้างเพื่ออุทิศให้แก่มารดา เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงได้น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวง และสันนิษฐานว่าครั้งหนึ่งวัดแห่งนี้ เคยใช้เป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการในจังหวัดสระบุรี ก่อนถูกยกเลิกไปภายหลัง
พระอุโบสถสร้างเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. 2404 หน้าบันเป็นปูนปั้นรูปตราแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ประดับลวดลายดอกไม้และสิงห์ สัญลักษณ์กระทรวงมหาดไทย มีซุ้มประตูกำแพงแก้ว ด้านหน้าพระอุโบสถได้รับอิทธิพลศิลปกรรมจีน กรอบซุ้มประตูด้านหลังอุโบสถ และลวดลายเซี่ยวกางบนบานประตู เป็นทวารบาลแบบจีน ยืนบนหลังสิงโต พระประธานในอุโบสถ มีนามว่า พระพุทธรัชกัลยาณมิตรประดิษฐาราม เป็นพระปางมารวิชัย หล่อโลหะลงรักปิดทอง อัญเชิญมาจากสุโขทัย ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนัง เหนือช่องหน้าต่างทั้งสี่ด้าน เขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง บนผนังด้านขวาหลังพระประธาน เขียนภาพวิถีชีวิตในอดีต
ด้านข้างพระอุโบสถ มีเจดีย์ทรงกลมบนฐานแปดเหลี่ยม มีกำแพงแก้วล้อมรอบ มีบันได 4 ด้าน นัยว่าเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ผู้สร้างวัด ได้บรรจุอัฐิธาตุของมารดาไว้ พระเจดีย์องค์นี้สร้างพร้อมกับอุโบสถ บนหอสวดมนต์ มีตุ๊กตาจีน 2 ตัว เดิมตั้งไว้หน้าพระอุโบสถ ไม่ทราบว่าได้มาจากที่ใด ใครเป็นผู้ถวายให้วัด ยังมีธรรมาสน์ลายทอง ปรากฏพระปรมาภิไธยย่อ จปร. เป็นสังหาริมวัตถุที่พระราชทานในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

#วัดสมุหประดิษฐาราม #สระบุรี #มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี   #ป่าสักสานสรรค์ #วช #สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ #กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม #ท่องเที่ยวชุมชน #ท่องเที่ยวสระบุรี #ท่องเที่ยวชาติพันธุ์​ #ภาคีท่องเที่ยว​ไทย​ #ตะลอนไปทั่ว
​ 

วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566

มรภ.เทพสตรี จัด Agent & Media Fam Trip นำคณะ​ผู้ประกอบการภาคีท่องเที่ยวไทยและสื่อมวลชนเยี่ยมชมสวนพุทธเกษตร ชุมชนลาวเวียง


 มรภ.เทพสตรี  จัดกิจกรรม Agent & Media Fam Trip นำคณะ​ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนจากภาคีท่องเที่ยวไทย ร่วมเยี่ยมชม-รับประทานอาหารกลางวัน ณ สวนพุทธเกษตร ชุมชนลาวเวียงบ้านชุ้ง ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยมีชุมชนลาวเวียงบ้านชุ้งร่วมต้อนรับ ด้วยอาหารพื้นบ้าน ได้แก่ ต้มไก่บ้านใบมะขาม ปลาร้าสับ แกงต้มเปรอะหน่อไม้ ไข่เจียวผักหวาน และขนมปิ้งมะพร้าวอ่อน เป็นอาหารจากภูมิปัญญาชุมชน 


จากนั้นชม หอวัฒนธรรมลาวเวียง ฟังเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชุมชนชาติพันธุ์ลาวเวียง แล้วเปลี่ยนการเดินทางโดยรถท้องถิ่น ไปลอดใต้ ต้นมะขามปู่ มะขามย่า


 เป็นต้นมะขามใหญ่อายุกว่า 500 ปี หากได้มาลอดซุ้มรากมะขาม และขอพรและผูกผ้าขาวม้าที่รากขามปู่ ขามย่า ช่วยเสริมดวงบารมี เป็นที่รักใคร่ ติดต่อสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวบ้านชุ้ง ได้ที่ นายสมนึก แสนสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านชุ้ง โทร 088-0108838

#ภาคีท่องเที่ยวไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี  #ตะลอนไปทั่ว #ป่าสักสานสรรค์ #วช #สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ #กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม #ท่องเที่ยวชุมชน #ท่องเที่ยวสระบุรี #ท่องเที่ยวชาติพันธุ์​ #ภาคีท่องเที่ยว​ไทย​ #ตะลอนไปทั่ว

วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2566

ภาคีท่องเที่ยวไทยจัดพาสมาชิกแต่งชุดไทยชมวัดคู่วัง ไหว้พระขอพรยามค่ำคืนต้อนรับปีใหม่ไทยณ.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์สนามหลวง


วันอังคาร​ที่​ ๒๕ เมษายน​ ๒๕๖๖
ภาคีท่องเที่ยวไทย นำโดยคุณ ภูริวัจน์​ ลิ้มถาวรรัตน์​ นำคณะสมาชิกและสื่อมวลชน ร่วมกิจกรรม งานใต้ร่มพระบารมี ๒๔๑ ปี กรุงรัตนโกสินทร์

จัดทริปพิเศษพาสมาชิกแต่งชุดไทย นุ่งโจง ห่มสไบ
ท่องเที่ยวชม วัดคู่วัง ไหว้พระขอพร ยามค่ำคืน ต้อนรับปีใหม่ไทย ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร
และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
นำสมาชิก​ ไหว้พระ ถวายดอกบัว ห่มผ้าต้นพระศรีมหาโพธ์ เสริมสิริมงคล
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมเป็นวัดราษฎร์ชื่อวัดสลัก สร้างในสมัยอยุธยา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์
เป็นราชธานี เป็นพระอารามหลวงแห่งแรก
ตามประเพณี​ไทยมีความเชื่อ​ว่าการถวายดอกบัวนั้น จะมีอานิสงส์หนุนนำให้พบแต่ความสำเร็จ สมดังปรารถนา
ดอกบัว ถือเป็นดอกไม้ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ที่สื่อถึง
คุณธรรม ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นดอกไม้มงคลที่เปี่ยมด้วยคุณค่า
ความหมายของดอกบัว คือ เป็นดอกไม้ที่จะพาเราไปพบแต่ความสำเร็จที่เราได้วางเป้าหมายนั่นเอง
ผลบุญจากการถวายดอกไม้พระ การถวายของหอมและดอกไม้สวยๆ แด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะทำให้เกิดความสุขและความเจริญแก่ชีวิต ได้รับอานิสงส์ผลบุญ เกิดชาติหน้าจะส่งผลให้มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม พรั่งพร้อมไปด้วยสมบัติ ทั้งโภคทรัพย์และอริยทรัพย์ ถ้าจากโลกนี้ไปแล้วจะทำไปสู่เทวโลก แวดล้อมไปด้วยหมู่เทวดา อยู่ในวิมานทองอย่างสุขสบาย

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ (บาลี: โพธิรุกข) เป็นต้นโพธิ์ที่พระโคตมพุทธเจ้าเคยประทับและตรัสรู้ดังปรากฏในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาว่า ต้นโพธิ์เปรียบได้กับพุทธอุเทสิกเจดีย์อย่างหนึ่ง ทำให้พันธุ์ต้นโพธิ์​กลายเป็นพันธุ์ไม้ที่เป็นที่เคารพนับถือของ
ชาวพุทธเสมอมานับแต่สมัยพุทธกาล 

โดยความหมายของใบโพธิ์ : ใบ “โพธิ์” เป็นสัญลักษณ์แห่ง “พุทธะ” เพราะเป็นดั่งเครื่องหมายที่บ่งบอกถึง “การรู้ตื่น และเบิกบาน” เหนือกาลเวลา ด้วยเหตุนี้การเกิดขึ้นของต้นโพธิ์ จึงหมายถึงการเกิดขึ้น
ของพระพุทธเจ้าและการเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าก็เปรียบได้กับการเกิดขึ้นของใบโพธิ์เช่นกันบนผ้าห่มต้นพระศรีมหาโพธิ์

#ภาคีท่องเที่ยวไทย
#วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์
#วัดมหาธาตุ
#ใต้ร่มพระบารมี๒๕๑ปีกรุงรัตนโกสินทร์
#พระศรีมหาโพธิ์
#ตะลอนไปทั่ว

วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566

วิจิตร 5 ภาค งานแสดง แสงสีเสียง วิจิตรตระการตา พร้อมสร้างประสบการณ์ ให้นักท่องเที่ยวแล้ว เริ่ม 29 เม.ย. นี้ ณ กทม.

บ่ายวันนี้ (19 เมษายน 2566) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “วิจิตร 5 ภาค” เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์อันทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน ผ่านการจัดกิจกรรม Event Marketing ที่อยู่ในกระแสนิยมและเป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยมี​ คุณฐนิวรรณ​ กุลมงคล​ คณะกรรมการการท่องเที่ยว​แห่ง​ประเทศไทย​ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ร่วมเปิดงานแถลงข่าว​ฯ​ ณ สุราลัย ฮอลล์ ไอคอนสยาม ชั้น 7
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสนับสนุน และส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและพักค้างคืนให้มากยิ่งขึ้น กับกิจกรรม “วิจิตร 5 ภาค” นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค ผ่านการเล่าเรื่องด้วยการใช้เทคนิคของแสง สี เสียง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างครอบคลุมในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ  การเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น และครอบคลุมในทุกพื้นที่ท่องเที่ยวจะช่วยกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค 
กำหนดการจัดงาน “วิจิตร 5 ภาค” จะมีการจัดในสถานที่ท่องเที่ยวใน 5 ภูมิภาค ดังนี้
1. ภาคกลาง : พบกับการแสดง แสง สี เสียง ภายใต้แนวคิด “มู Light Experiences วิจิตรการมู (เตลู)”  ที่สะท้อน 3 ความเชื่อของคนไทยผ่านแสงจันทร์และการอาบแสงจันทร์ เพื่อส่งมอบพลังบวกและความเป็นสิริมงคล โดยจะจัดขึ้นใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 
- ICONSIAM จัดการแสดง Contemporary Dance หน้าม่านน้ำ ด้วยเทคนิค Multimedia Water Features + Lighting ซึ่งจัดแสดง 5 วันตลอดการจัดงาน (29-30 เมษายนและ 4,6,7 พฤษภาคม 2566) พร้อมกิจกรรมแชะ & แชร์ เพื่อลุ้นรับ E-voucher มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท และยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรับสติกเกอร์ยันต์มหามงคล 
- อาคารไปรษณีย์กลางบางรัก จัดแสดงการแสดง Mapping ไพ่ยิปซี 12 ราศีสุดยิ่งใหญ่บนอาคารไปรษณีย์กลาง ด้วยเทคนิค Mapping & Lighting พร้อมกิจกรรมสแกนเล่นเกม และกิจกรรมดูดวงจากนักพยากรณ์หลากหลายศาสตร์ สุดพิเศษใน วันที่ 30 เมษายน 2566 เชิญอาจารย์แห้วทำพิธีลงนะหน้าทอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถร่วมพิธีได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป พร้อมลุ้นรับสติกเกอร์ยันต์มหามงคล
- วชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) พบกับการถ่ายทอดเรื่องราวของดวงดาว 12 นักษัตรผ่าน โคมไฟบอลลูนรอบสวนสาธารณะ และการตกแต่งแสงสีบนต้นไม้และพื้นหญ้า ด้วยเทคนิค Lighting Installation 3D ภายในงานยังมีกิจกรรม Walk Rally 12 นักษัตร ให้นักท่องเที่ยวได้ลุ้นรับรางวัลเหรียญมงคล 12 นักษัตร สุดพิเศษกับกิจกรรม Fan Meeting กับสองหนุ่ม ‘ฟอส-บุ๊ค’ ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เวลา 18:00 – 19:00 น.        สามารถเที่ยวชมและร่วมกิจกรรมทั้ง 3 พื้นที่ได้ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน – 7 พฤษภาคม พ.ศ.2566 

2. ภาคใต้ : พบกับการแสดง แสง สี เสียง ภายใต้แนวคิด “วิจิตร 5 ภาค @นครศรีธรรมราช ศิลป์ศรัทธา มหานครฯ สร้างสีสันบรรยากาศให้สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช สัมผัสกิจกรรมการแสดงแสง สี เสียง ด้วยเทคนิค Mapping 3D, Light up, Light Installation, City Tour และ Story Telling พร้อมกิจกรรมมากมายภายในงาน สามารถเที่ยวชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 20 – 28 พฤษภาคม พ.ศ.2566

3. ภาคเหนือ :  “วิจิตร@เชียงราย หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย Chiang Rai : Wiang of Light” สร้างสีสันบรรยากาศให้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมเมืองล้านนา สามารถเที่ยวชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 20 – 28 พฤษภาคม พ.ศ.2566

4. ภาคตะวันออก : “วิจิตร@ระยอง เมื่อสุริยาลับขอบฟ้า การผจญภัยตามหา ขุมทรัพย์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ของภาคตะวันออก จึงเริ่มขึ้น..” ประดับตกแต่งไฟ ด้วยเทคนิค Projection Mapping เกาะกลางน้ำ, โลกแสงสีสันใต้น้ำของแมงกะพรุน, การแสดงโชว์ Lighting ณ สะพานแห่งวิถีวิจิตร, กิจกรรมแสดงพลุ ดอกไม้ไฟ เป็นต้น บนพื้นที่กว่า 2 ตารางกิโลเมตร เสมือนได้อยู่ท่ามกลางดินแดนเหนือจินตนาการ และพบกับการแสดงดนตรีจากศิลปินชั้นนำ รวมถึงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านค้าในชุมชนท้องถิ่นออกร้านขายของ สามารถเที่ยวชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน     พ.ศ. 2566 ณ เจดีย์กลางน้ำป่าชายเลน จังหวัดระยอง

5. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : “วิจิตรนครพนม นครแห่งความสุขริมฝั่งโขง” สร้างสีสันบรรยากาศให้จังหวัดนครพนมและริมฝั่งโขงสัมผัสกิจกรรมยิ่งใหญ่อลังการ กับงานการแสดงแสงสี ผ่านเทคนิค Mapping และการ Light up พร้อมกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย สามารถเที่ยวชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน พ.ศ.2566 

สนใจกิจกรรม การแสดง และรายละเอียดอื่นๆ ของงาน “วิจิตร 5 ภาค” สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center หรือโทร. 1672 Travel Buddy

ทำไมไปที่นี่ต้อง...โก้งโค้ง

ที่นี่ ตลาดโก้งโค้ง
   "ตลาดโก้งโค้ง" ที่นี่จะทำให้พวกเราได้โก้งโค้งเพื่อเลือกซื้อสินค้า​เหมือนที่คนสมัยก่อนเขาโก้งโค้งซื้อของในตลาดกัน 
เพราะสมัยนั้นยังไม่มีเคาท์เตอร์ซื้อของ เลยต้องวางกับแคร่ หรือแบกับดินให้คนก้มโก้งโค้งซื้อของกัน เป็นที่มาของชื่อตลาดโก้งโค้ง และแน่นนอนว่า พระนครศรีอยุธยา ราชธานีเก่าของเราที่เคยรุ่งเรืองเนี่ยแหล่ะ คือที่ตั้งของตลาดโก้งโค้งนี้
   อย่าปล่อยให้วันหยุดหมดไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรกันเลยดีกว่า ออกเดินทางไปจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพจังหวัดนี้กัน "พระนครศรีอยุธยา" ที่ "ตลาดโก้งโค้ง"

หลงไปในวิถีไทยโบราณกับตลาดโก้งโค้ง... ไปโก้งโค้งช๊อปปิ้งกันเถอะ 🙇🙇‍♂️
   อยากอนุรักษ์ภาพคนในสมัยโบราณ ที่มีความสวยงาม สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน
มีประเพณีที่ดีงาม ของคนไทย ให้ลูกหลานได้ชื่นชม และภาคภูมิใจ 🥰🥰

พิกัด​ : https://maps.app.goo.gl/3KfKoVd16jQqAKuu8


#ตลาดโก้งโค้ง #อยุธยา #ตะลอนไปทั่ว

วันอังคารที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2566

ททท. แม่ฮ่องสอน ขอเชิญร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวประเพณีสงกรานต์ อ.ปาย

 ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกิจกรรมการท่องเที่ยวประเพณีสงกรานต์ ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และกระจายรายได้สู่ชุมชน รวมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่แหล่งท่องและกิจกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ ของอำเภอปาย 

 วันพฤหัสบดี-ศุกร์ที่ 20-21 เมษายน 2566 กิจกรรมวันไหลต่อเนื่องจากประเพณีสงกรานต์ “Pai Relax Day” เวลา 13.00 - 20.00 น. ณ บริเวณริมน้ำปาย เชิงสะพานข้ามแม่น้ำปาย ฝั่งแม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีกิจกรรมเด่น ได้แก่ กิจกรรมดนตรี การจัดพื้นที่เล่นน้ำ - อุโมงเล่นน้ำ กาดฝรั่ง กีฬาพื้นบ้าน อาทิ วอลเลย์บอลชายหาด มวยทะเล การจำหน่ายอาหารท้องถิ่น ของที่ระลึก และกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน กิจกรรมล่องห่วงยางแม่น้ำปาย 

ซึ่งการจัดงานจะเน้นใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการเกิดขยะ เช่น การใช้ภาชนะที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ หรือย่อยสลายง่าย รวมทั้งรณรงค์ ให้ผู้เข้าร่วมงานนำภาชนะใส่เครื่องดื่มมาเอง และมีการคัดแยกการทิ้งขยะตามประเภท  

ไม่เสียค่าเข้าชม ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่มีพิธีการ แต่งกายตามประเพณีนิยม 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน เลขที่ 4 ถนนราชธรรมพิทักษ์ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000 โทร. 0 5361 2982 - 3 ในวันและเวลาราชการ Facebook Page : ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน (TAT MAEHONGSON)