วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566

LIT Entertainment ได้เวลาแผลงฤทธิ์มากันยกค่ายจัด “สนามเด็ก LIT Concert”


 
ปรากฏการณ์ครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้วที่นี่ กับ “สนามเด็ก LIT Concert” คอนเสิร์ตครั้งแรกจากค่าย LIT Entertainment ที่ยกศิลปินมาทั้งค่าย ไม่ว่าจะเป็น PiXXiE, bamm, Proo Thunwa และ DIDIxDADA กลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ผู้เติมไฟให้วงการเพลงไทยด้วยการร้อง การเต้น และการ Perform ที่การันตีด้วยเพลงฮิตที่เปิดทุกคลื่นวิทยุ ท่าเต้นที่คนเต้นตามจนกลายเป็นไวรัลใน Tiktok อย่าง “มูเตลู – PiXXiE”, “ฉันจะฉาปเธอ - bamm” จากการเก็บประสบการณ์ในวงการ T-Pop จนพร้อมที่จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกเขาเนี่ยแหละ “เด็กมี LIT” และชวนทุกคนมาสนุกไปด้วยกันในรูปแบบคอนเสิร์ตในธีมสนามเด็กเล่น โดยให้ความหมายว่าสนามเด็กเล่นเป็นสถานที่ที่ถูกออกแบบมาสำหรับเด็ก LIT และเพื่อน ๆ เพื่อให้ทุกคนที่ชื่นชอบในจังหวะ ดนตรี และเสียงเพลงมาร่วมร้อง เต้น เล่น และแสดงความสามารถไปพร้อม ๆ กันกับเหล่าศิลปินวัยรุ่นจากค่าย LIT ชวนทุกคนมาแผลงฤทธิ์ ปลดปล่อยความเป็นเด็ก ณ สนามเด็กเล่น LIT แห่งนี้!
แฟน ๆ เตรียมตัวให้พร้อมกับความสนุกที่เหล่าศิลปินจะขนมา เสิร์ฟให้คุณตรงหน้า แล้วพบกันในวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ ที่ Union Hall, ศูนย์การค้า Union Mall จับจองที่นั่งกันให้ดี เริ่มจำหน่ายบัตรวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2566 เวลา 10.00 น. ทาง The Concert Application หรือ www.theconcert.com บัตรราคา 5,000 / 4,500 / 3,500 / 2,500 / 1,500 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่1-3 กรกฎาคม 2566 สามารถกรอกโค้ด LITEARLY10 เพื่อรับส่วนลด 10% ต่อ 1 คำสั่งซื้อ! แล้วมาร่วมแผลงฤทธิ์ไปด้วยกัน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Social Media : LIT Entertainment
 

มจร. วัดไร่ขิง ยกระดับสินค้าผลงานนิสิตแบรนด์ "ทวารวดี" สู่ระดับชาติ

พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ รองผอ.วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี หรือ มจร. วัดไร่ขิง กล่าวว่า ทางวิทยาลัยมีนโยบายในการยกระดับสินค้าที่เกิดจากผลงานของนิสิต นักศึกษา แบรนด์ "ทวารวดี" สู่แบรนด์ระดับชาติให้ได้ เพื่อยกระดับจากสินค้า Local  สู่สินค้าอันเลอค่า ระดับชาติ
เพื่อให้เกิดอาชีพและรายได้แก่นิสิตอย่างยั่งยืน
 โดยล่าสุดมีผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากโครงการ CCS (Cap-Corner Stone Project) ของนิสิตระดับปริญญาโท สาขาการพัฒนาสังคม ที่ได้จัดทำโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตบชวาศรีทวารวดี ในชื่อว่า “ตบชวาศรีทวารวดี” ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์คือ “กระเช้าทวารวดี” เป็นการถอดแบบลวดลายของเครื่องปั้นดินเผาในสมัยทวารวดี มาสานเป็นลายตะกร้า เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของสินค้า ด้วยการคิดค้นและพัฒนาร่วมกันระหว่างนิสิตกับชาวบ้านกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านต้นตาล ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก
 นอกจากนี้ยังมี “ตะกร้ากระต๊าก” เป็นตะกร้ารูปไก่ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนบางเลน เป็นพื้นที่ที่นิสิตได้ลงไปทำงานร่วมกับชุมชน จึงนำเอาอัตลักษณ์ของชุมชนบางเลนซึ่งเป็นพื้นที่มีการเลี้ยงไก่เป็นจำนวนมาก มาออกแบบเป็นลวดลายของตะกร้า 
  พระมหาบุญเลิศ กล่าวต่อไปว่า นิสิตยังได้นำสินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์ “ตบชวาศรีทวารวดี” ไปแสดงในงานสถานที่ต่าง ๆ เช่น Legend Siam Pattaya, งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน, งานมหกรรมศีล 5 ที่วัดไร่ขิง , กิจกรรมออกร้านของ วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี รวมทั้งมหกรรมงานแสดงสินค้า ทำให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จักสานตบชวาเพิ่มมากขึ้น 

สร้างเครือข่ายทางการตลาดกับเครือข่ายพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์ผ่านช่องทาง เฟชบุ๊คไลฟ์ จนมียอดสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องรับสมาชิกในกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านต้นตาลเพิ่ม เพื่อเร่งการผลิตสินค้า พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตบชวาศรีทวารวดี และ  นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพัฒนาสังคมและอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม ด้วยการมอบตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการอบผลิตภัณฑ์จักสานตบชวาให้ทันกับยอดการสั่งซื้อ และมีการจดทะเบียนเป็น วิสาหกิจชุมชนจักสานตบชวาบ้านต้นตาลด้วย  
ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่มจร. วัดไร่ขิง ยกระดับสินค้าผลงานนิสิตแบรนด์
 "ทวารวดี" สู่ระดับชาติ 
พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ รองผอ.วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี หรือ มจร. วัดไร่ขิง กล่าวว่า ทางวิทยาลัยมีนโยบายในการยกระดับสินค้าที่เกิดจากผลงานของนิสิต นักศึกษา แบรนด์ "ทวารวดี" สู่แบรนด์ระดับชาติให้ได้ เพื่อยกระดับจากสินค้า Local  สู่สินค้าอันเลอค่า ระดับชาติ
เพื่อให้เกิดอาชีพและรายได้แก่นิสิตอย่างยั่งยืน

 โดยล่าสุดมีผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากโครงการ CCS (Cap-Corner Stone Project) ของนิสิตระดับปริญญาโท สาขาการพัฒนาสังคม ที่ได้จัดทำโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตบชวาศรีทวารวดี ในชื่อว่า “ตบชวาศรีทวารวดี” ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์คือ “กระเช้าทวารวดี” เป็นการถอดแบบลวดลายของเครื่องปั้นดินเผาในสมัยทวารวดี มาสานเป็นลายตะกร้า เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของสินค้า ด้วยการคิดค้นและพัฒนาร่วมกันระหว่างนิสิตกับชาวบ้านกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านต้นตาล ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก

 นอกจากนี้ยังมี “ตะกร้ากระต๊าก” เป็นตะกร้ารูปไก่ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนบางเลน เป็นพื้นที่ที่นิสิตได้ลงไปทำงานร่วมกับชุมชน จึงนำเอาอัตลักษณ์ของชุมชนบางเลนซึ่งเป็นพื้นที่มีการเลี้ยงไก่เป็นจำนวนมาก มาออกแบบเป็นลวดลายของตะกร้า 
  พระมหาบุญเลิศ กล่าวต่อไปว่า นิสิตยังได้นำสินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์ “ตบชวาศรีทวารวดี” ไปแสดงในงานสถานที่ต่าง ๆ เช่น Legend Siam Pattaya, งานเกษตรแฟร์ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน, งานมหกรรมศีล 5 ที่วัดไร่ขิง , กิจกรรมออกร้านของ วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี รวมทั้งมหกรรมงานแสดงสินค้า ทำให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จักสานตบชวาเพิ่มมากขึ้น 

สร้างเครือข่ายทางการตลาดกับเครือข่ายพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มช่องทางการขายทางออนไลน์ผ่านช่องทาง เฟชบุ๊คไลฟ์ จนมียอดสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องรับสมาชิกในกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านต้นตาลเพิ่ม เพื่อเร่งการผลิตสินค้า พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ตบชวาศรีทวารวดี และ  นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพัฒนาสังคมและอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม ด้วยการมอบตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการอบผลิตภัณฑ์จักสานตบชวาให้ทันกับยอดการสั่งซื้อ และมีการจดทะเบียนเป็น วิสาหกิจชุมชนจักสานตบชวาบ้านต้นตาลด้วย  
ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่

ลิ้งเพจhttps://www.facebook.com/profile.php?id=100080338749952
เฟสบุ๊ค ชื่อ ศูนย์วิสาหกิจทวารวดี วส.วัดไร่ขิง
เบอร์ติดต่อ 085 563 5954

รฟท. จัดทริปสุดคลาสสิค นำเที่ยวสุพรรณ



วันที่ 10 มิถุนายน​ 2566
การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดสุพรรณบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุพรรณบุรี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 (อพท.7)
จากรถขบวนนำเที่ยวพิเศษ KIHA 183 สัมผัสประสบการณ์นั่งรถไฟ ที่มาไกลจากฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น นำเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดสุพรรณบุรี


โดยมี นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี
นายอภิวัฒน์  ทับทิมโต
ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี นางสาวพัชรศรี สมบัติทวีพูน
ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ดร.สมจินต์ ชาญกระบี่ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 7 (อพท.7) และนายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย ร่วมให้การต้อนรับดูแลตลอดการเดินทาง 


___________________________________

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566

“เกษตรฯ.”จับมือญี่ปุ่นเดินหน้าโครงการแปรรูปสาหร่ายเป็นน้ำมันชีวภาพและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง

  

    นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการผลิตน้ำมันจากสาหร่ายและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยดร.อังศุธรมหิทธิกุล ผู้จัดการสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายณัฐพล วชิรโรจน์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) น.ส.มนทกานติ ท้ามติ้น ผอ.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี ผู้แทนกรมประมง พลเรือเอก ดร.สมัย ใจอินทร์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือและกรรมการมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย นส.สภาวรรณ พลบุตร ผู้แทนมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท(Worldview Climate Foundation , Thailand) นายโชติ พืงเจริญพงศ์ คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร นายมาซาฮิโร คาบาชิมา (Mr. Masahiro Kabashima)ผู้แทนบริษัทชิโตเซะผู้ผลิตน้ำมันจากสาหร่ายรายแรกของประเทศญี่ปุ่นว่า ที่ประชุม ได้ร่วมหารือความร่วมมือโครงการผลิตน้ำมันจากสาหร่าย และผลิตภัณฑ์จากสาหร่ายสู่เกษตรมูลค่าสูง ทั้งนี้ ผู้แทนบริษัทชิโตเซะผู้ผลิตน้ำมันจากสาหร่ายรายแรกของประเทศญี่ปุ่นยินดีที่จะสนับสนุนความรู้และประสบการณ์ของบริษัทที่ได้วิจัยพัฒนาการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผลิตเป็นน้ำมันรวมทั้งการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากว่า10ปีและพร้อมจะมาลงทุนในประเทศไทยโดยการสนับสนุนของรัฐบาลญี่ปุ่น 
   นายอลงกรณ์กล่าวว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมสาหร่ายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ กรมประมงจึงดำเนินการรวบรวมผลงานวิจัยและพัฒนาสาหร่ายและเริ่มสนับสนุนให้เกษตรกรและภาคเอกชนเพาะเลี้ยงสาหร่ายเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศมาใช้ในการบริโภค อุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมทั้งการผลิตเป็นน้ำมันชีวภาพ นอกจากนี้ตนยังได้ประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยขอให้นำสาหร่ายที่เพาะเลี้ยงในประเทศใช้ทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ 
    นอกจากนี้ บริษัทบางจากได้พัฒนาสาหร่ายเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆเช่นเวชสำอางค์ อาหารเสริม ส่วนปตท.ร่วมกับ”วว.”(สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย Thailand Institute of Scientific and Technological Research (TISTR)จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย(Algal Excellent Center- ALEC)ทำการวิจัยและพัฒนาสาหร่ายน้ำจืดเป็นน้ำมันแต่ยังมีต้นทุนสูงหากได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้สร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดหรือร่วมลงทุนวิจัยพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีกับทางญี่ปุ่นซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสาหร่ายสู่เกษตรมูลค่าสูงได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
   ยิ่งกว่านั้น สาหร่ายยังเป็นพืชที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าต้นไม้หลายเท่าช่วยลดก๊าซเรือนกระจกลดโลกร้อนสร้างคาร์บอนเครดิตให้กับประเทศไทยจึงได้เชิญมูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท(Worldview Climate Foundation , Thailand)และมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทยมาช่วยขับเคลื่อนโครงการพัฒนาสาหร่ายและมอบหมายให้กรมประมงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์และแปรรูปสาหร่ายเป็นน้ำมันชีวภาพและเกษตรมูลค่าสูงในเร็วๆนี้เพื่อเร่งการนำสาหร่ายมาสร้างอาชีพและใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ.

วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2566

อำเภอสรรคบุรี​ สภาวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท จัดประกวด “ หนุ่มหล่อวัยใส ใส่ใจตาลโตนด ” ในงาน วิถีถิ่น วิถีไทย ใส่ใจตาลโตนด ครั้งที่ 1


วันที่ 24 มิถุนายน​ 2566 อำเภอสรรคบุรี​ สภาวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท จัดประกวด “ หนุ่มหล่อวัยใส ใส่ใจตาลโตนด ” ในงาน วิถีถิ่น วิถีไทย ใส่ใจตาลโตนด ครั้งที่ 1 

งาน “วิถีถิ่น วิถีไทย ใส่ใจตาลโตนด” จัดขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ตาลโตนด อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน อาหารพื้นถิ่น และประชาสัมพันธ์ของดีตำบลห้วยกรดและของดีอำเภอสรรคบุรีให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย มีการงานตั้งแต่วันที่ 16-25 มิถุนายน 2566 รวม 10 วัน บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท และจัดให้มีการประกวด “ หนุ่มหล่อวัยใส ใส่ใจตาลโตนด ” ในค่ำวันที่ 24 มิถุนายน 2566  

ต้นตาลโตนดมีความสำคัญต่อวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของชาวตำบลห้วยกรด เป็นเอกลักษณ์และนำมาซึ่งวัฒนธรรมของท้องถิ่น เช่น อาหารพื้นถิ่น เครื่องใช้พื้นบ้าน นำมาซึ่งรายได้ของชาวตำบลห้วยกรด 


ว่าที่รต.พะลาท คำหอม
ภาพ-ข่าว 

วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Taiwan Excellence นำเสนอโซลูชั่นนวัตกรรมอุตสาหกรรม 4.0ที่งาน Manufacturing Expo 2023 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตไทย


Taiwan Excellence นำเสนอสุดยอดผลิตภัณฑ์ไต้หวันออกสู่สายตาโลก นำทีมบริษัทระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมแถวหน้าของวงการ มาจัดแสดงโซลูชันการผลิตอัจฉริยะและอุปกรณ์อัตโนมัติทันสมัยล่าสุดที่ Taiwan Excellence Pavilion และงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ภายใต้แนวคิด "Empowering Smart Manufacturing" ในงาน Manufacturing Expo 2023 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตที่สำคัญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 21-24 มิถุนายนนี้


Taiwan Excellence Pavilion จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Empowering Smart Manufacturing” โดยมี 7 บริษัทไต้หวันที่มีชื่อเสียง ได้แก่ แอดวานซ์ เทค, ชิน ฟง, จีเอ็มที โกลบอล, แพลนเน็ต, โซโลมอน, เทคแมน โรบอท และ โตโย นำวัตกรรมล่าสุดของตนมาจัดแสดงให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมได้รับรู้และเข้าใจถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยเติมเต็มและเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่กำลังปรับเปลี่ยนสู่ระบบอัตโนมัติมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงในงานครั้งนี้ ได้แก่ หุ่นยนต์ปฏิบัติการร่วม, แพลตฟอร์ม IIoT, ระบบการอนุมาน AI แบบสวม,  สวิตช์อีเทอร์เน็ตสำหรับอุตสาหกรรม, ชุดซอฟต์แวร์ประมวลผลข้อมูลเพื่อการทำงานที่แม่นยำ, ส่วนประกอบความแม่นยำ, และเครื่องปั๊มขึ้นรูปโลหะอัจฉริยะ


งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด "Empowering Smart Manufacturing" จัดขึ้นในวันแรกของงาน Manufacturing Expo 2023 ให้ผู้ร่วมงานได้รู้จักกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมรุ่นล่าสุดจากไต้หวัน ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย ให้อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก


ภายในงาน บริษัท โซโลมอน เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น โชว์จุดเด่นของ META-aivi ระบบการอนุมาน AI แบบสวมที่บันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลการผลิต ลดโอกาสเกิดความผิดพลาดโดยมนุษย์ ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานด้วยระบบ AI ในขณะที่ บริษัท แอดวานซ์เทค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) มาพร้อมกับ LoRaWAN อุปกรณ์เซ็นเซอร์อัจฉริยะจับความสั่นสะเทือน ที่สามารถเชื่อมต่อระยะไกล ทำให้สามารถตรวจจับความสั่นสะเทือนระยะไกลและแบบเรียลไทม์ได้ นอกจากนี้ยังประหยัดพลังงานอีกด้วย


ด้าน บริษัท เทคแมน โรบอท แสดงระบบวิชัน AI ของหุ่นยนต์ปฏิบัติการร่วม พร้อมแบ่งปันกรณีศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่นำไปใช้ในด้านต่างๆ เช่น การประกอบรถยนต์ การแปรรูปโลหะ และการวางพาเลท  ส่วน บริษัท จีเอ็มที โกลบอล นำเสนอการใช้งานส่วนประกอบความแม่นยำ ซึ่งรวมถึงตัวกระตุ้นเชิงเส้น กระบอกไฟฟ้า และแท่นหมุนมอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และใยแก้วนำแสง และท้ายสุด บริษัท แพลนเน็ต เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวโซลูชันอีเทอร์เน็ตสำหรับอุตสาหกรรม ช่วยผู้ผลิตในประเทศไทยสร้างระบบเครือข่ายความเร็วสูงและคุ้มค่าโดยใช้เทคโนโลยี 5G และ LoRaWAN

คุณหนิ่ว หยง ฉือ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจ สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน ประจำประเทศไทย (TAITRA) ในฐานะแขกพิเศษในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ กล่าวเปิดงานว่า “ในฐานะซัพพลายเออร์รายใหญ่อันดับ 6 ของไทยในปี พ.ศ. 2565 ไต้หวันได้สร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับไทยในภาคการผลิต ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือและโอบรับนวัตกรรม เราจึงสามารถยกระดับประสิทธิภาพ ผลิตผลและผลกำไร เมื่อร่วมมือกันเราสามารถสร้างคอมมูนิตี้การผลิตที่แข็งแกร่งและมีชีวิตชีวามากขึ้นได้"


งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ยังได้รับเกียรติจาก ดร.สมสิทธิ์ มูลสถาน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและโลหะการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเป็นแขกพิเศษ พร้อมกล่าวเปิดงานว่า “ประเทศไทยกำลังผลักดันภาคอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เราต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเต็มที่ นักอุตสาหกรรมไทยยังคงเชื่อมั่นและมั่นใจในประสิทธิภาพของเทคโนโลยีจากไต้หวัน พวกเขาใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง”


นอกจากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์แล้ว Taiwan Excellence ยังได้จัดกิจกรรมและนิทรรศการที่น่าสนใจอีกมากมายในประเทศไทย ซึ่งรวมถึง "Taiwan Excellence Pop-Up Store" ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 23-25 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ยังจัด " Taiwan Excellence Pavilions at Taiwan Expo” ในเดือนกรกฎาคม และร่วมงาน “Medica Fair Thailand” ในเดือนกันยายน ทั้งหมดนี้มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย


ผู้ประกอบการและบุคลากรไทยในอุตสาหกรรมการผลิต สามารถเข้าชม Taiwan Excellence Pavilion ได้ระหว่าง วันที่ 21-24 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00-18.00น.ณ ฮอลล์ 98 บูธ 8G09 ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
__________________________________

รวมพลคนรักสุนัขห้ามพลาด! อิมแพ็คฯจัด “มหกรรมคนรักสุนัข” ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี พิเศษปีนี้ จัดประกวด FCI Grooming เปิดตัวครั้งแรก ร่วมแต่งตัวธีม “น้องหมา Sahara” พร้อมจัดเต็มกว่า 250 บูธ

   นางสาวกุลวดี จินตวร   ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า อิมแพ็ค เตรียมจัดงานใหญ่ มหกรรมคนรักสุนัข 2566 (SmartHeart presents Thailand International Dog Show 2023) ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 6 - 9 กรกฎาคม 2566 ที่อาคาร 5-6 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิดการเข้าสู่ยุค Pet Humanization (พฤติกรรมที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีทัศนคติการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของตัวเองเปรียบเสมือนสมาชิก           ในครอบครัว)  เพื่อตอบรับกระแสการเติบโตของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงที่ยังเติบโตได้ดี หลังช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ มีความมุ่งหวังเป็นตัวกลางพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะคนรักสุนัข จึงได้ร่วมกับพันธมิตร อาทิ สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย), สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย (TPIA), บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด และหน่วยงานพันธมิตร พร้อมจัดงานนี้อย่างยิ่งใหญ่ จำนวนกว่า 250 บูธ บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร พร้อมทั้งจัดกิจกรรม Business Matching กับผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงจากต่างประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 150,000 คน สร้างยอดขายได้มากถึง 70 ล้านบาทตลอด 4 วัน


นายวรพัทธ์ อัครกุลไกรเลิศ  นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย (TPIA) กล่าวว่า เพื่อตอบโจทย์กระแสสัตว์เลี้ยงที่เติบโตต่อเนื่อง สมาคมฯมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาและให้ข้อมูลกับผู้ผลิตผู้บริโภคได้รับรู้และเข้าใจถึงคุณภาพของสินค้าสัตว์เลี้ยง โดยกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมานานแล้ว หรือเพิ่งจะเริ่มเลี้ยง ได้ตระหนักถึงคุณภาพสินค้าและบริการสัตว์เลี้ยงที่มีหลากหลายมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าตลาดจะมีการแข่งขัน แต่ตลาด ก็ยังมีช่องว่างที่ยังสามารถขยายตัวได้  


โดยหลังสถานการณ์โควิดผู้เลี้ยงสุนัขมีพฤติกรรม ที่ปรับเปลี่ยนไปเป็น Pet Parent มากขึ้น เทรนด์การเลี้ยงสุนัขพันธุ์ขนาดเล็ก มีลักษณะตัวเล็ก พกพาง่าย ใช้พื้นที่เลี้ยงไม่มาก ส่งผลให้ ตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเติบโต โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและขนมขบเคี้ยวสำหรับสัตว์เลี้ยง จำนวนกว่า 96,000 ล้านบาท (ตัวเลขจากกรมปศุสัตว์)  และส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สัตว์​อ

เลี้ยง​ กลุ่มต่างๆ ในประเทศเติบโต อาทิ อาหาร ขนม อุปกรณ์ ของใช้ สำหรับสัตว์เลี้ยง และ สถานที่ Pet Friendly ต่างๆ ที่ต้อนรับคนรักสุนัข



นางวนิดา บุษกรนันท์   นายกสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) กล่าวว่า สมาคมฯ มีประสบการณ์ในการจัดการประกวดสุนัขมาเป็นระยะเวลานาน และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า Pet Humanization จะเป็นตัวขับเคลื่อน ให้คนนำสุนัขเข้ามาร่วมประกวดกันมากขึ้น เพราะในตลาดมีสินค้าและบริการตอบโจทย์ความเป็น Pet Personalized สูง(สินค้าและบริการที่คำนึงถึงการออกแบบและให้ประโยชน์ตามความต้องการของสัตว์เลี้ยงแบบตัวบุคคลได้)  ทำให้ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเจ้าของนำสุนัขที่มีสุขภาพดีสมบูรณ์เข้าร่วมงานจำนวนมาก ปีนี้ทางสมาคมฯ ได้สนับสนุนร่วมการประกวดสุนัขสวยงามชิงแชมป์นานาชาติ และชิงแชมป์ประเทศไทย รวมสุนัขเข้าประกวด จำนวน 4,000 ตัว จากตัวแทน 16 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์  เกาหลี  จีน เวียดนาม  ญี่ปุ่น  อินโดนิเซีย  อินเดีย  รัสเซีย  ปากีสถาน  ออสเตรเลีย  มาเลเซีย  สิงคโปร์  ฮ่องกง ไต้หวัน เบลเยี่ยม และศรีลังกา  โดยสุนัขที่คาดว่าจะส่งประกวดเยอะสุดเป็น ปอมเมอเรเนียน ประกอบกับกระแสการประกวดสุนัขค่อนข้างมาแรง จึงได้นำกิจกรรมประกวด                       FCI Thailand International Grooming Examination  มาเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้ (เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับความสนใจในการลงสอบตัดแต่งขนสุนัขจากหลายชาติ อาทิเช่น ไทย จีน เวียดนาม ไต้หวัน มาเลเซีย และ อินเดีย 


โดยในครั้งนี้ทางเราได้เชิญกรรมการจากประเทศญี่ปุ่น ประสบการณ์ในการตัดสิน การสอบตัดแต่งขนสุนัขอย่างยาวนาน) รวมไปถึงยังมีการแข่งขัน FCI Agility Championship 2023 หาสุดยอดสุนัขที่มีความว่องไว ซึ่งเป็นกิจกรรมทางกีฬาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีหลากหลายรุ่นให้ลงแข่งขัน


นายศุภกฤต อัศวชัยพร  รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ SmartHeart  กล่าวว่า SmartHeart มีวิสัยทัศน์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งของคนและสัตว์เลี้ยง ด้านการดูแลเอาใจใส่และคิดค้นผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง 


จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าและบริการจะมีส่วนช่วยในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้เลี้ยงสุนัขและสัตว์เลี้ยง พร้อมกับปัจจุบันมีการแตกไลน์สินค้าที่เป็น Pet Centric มากขึ้น เพราะสุนัขก็มีความต้องการที่ Personalized เช่นเดียวกับคน


นอกจากนี้ภายในงาน มหกรรมคนรักสุนัข 2566  (SmartHeart presents Thailand International Dog Show 2023) นี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย  อาทิ  พิธีรับมอบรางวัล TPIA​'S​ PET​ SHOP​ AWARD​ 2023 /  การแข่งขันพิทบูลจอมพลังลากน้ำหนักชิงแชมป์ประเทศไทย / กิจกรรมวิ่งแข่งให้สุนัขวิ่งหาแม่ให้ไวที่สุด เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับเจ้าของและสุนัข / กิจกรรมเจ้าตูบตะลุยด่าน /กิจกรรมแต่งตัวน้องหมาให้ในธีม Dog Show Sahara / พร้อมตอบแทนลูกค้าผู้สนใจเข้าชมงานทุกท่านได้ฉลองครบรอบ 21 ปีลุ้นรับรางวัล  21 รางวัล  ทั้งนี้ค่าเข้าชมงานอยู่ที่ 20 บาทต่อท่าน (เด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าฟรี) โดยรายได้ส่วนหนึ่งเข้าสู่โครงการ 1 บาทเพื่อเจ้าตูบที่หิวโหย


พร้อมแล้วพบกันในงาน “SmartHeart presents Thailand International Dog Show 2023 ครั้งที่ 21”  มหกรรมคนรักสุนัขอันดับ 1 ของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 6 - 9 กรกฎาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. อาคาร 5 - 6  อิมแพ็ค เมืองทองธานี  โปรโมชั่นพิเศษ! ซื้อตั๋วล่วงหน้า รับฟรี! ตั๋วเข้างานเพิ่มอีก 1 ใบ ลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าและติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้  ที่เว็บไซด์ www.thailand-dogshow.com / เฟซบุ๊ก Thailand International Dog Show  / หรือ แอดไลน์ @dogshow

////////////////////